ตามรายงานของสื่อกระแสหลักนานาชาติอย่าง Business Times และ Entrepreneur ระบุว่าไม่กี่วันที่ผ่านมา Fincy ธุรกิจฟินเทคสตาร์ทอัพของสิงคโปร์ได้รับการฉีดทุนจากบริษัทแม่อย่าง GBCI จำนวน 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะใช้สำหรับการบริการทางเทคนิคและการพัฒนาตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัท Fincy และทางบริษัทยังได้กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการฉีดทุนในครั้งนี้แล้ว Fincy จะทำการสรุปรอบการจัดหาเงินทุนภายนอกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าให้ได้ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนา Fincy
จากการรายงานของ Entrepreneur การฉีดทุนให้กับ Fincy ในครั้งนี้เป็นการฉีดทุนสำหรับธุรกิจฟินเทคสตาร์ทอัพครั้งที่สองของ GBCI โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยในการดำเนินการแก้ไขปัญหาสมาร์ทซิตี้ และGBCI Ventures py’ได้ระดมทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเป็นกองทุนสำหรับสมาร์ทซิตี้ในสิ้นปี 2561 พร้อมกับเปิดตัวกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น หุ่นยนต์ , เอไอ (AI) และ การจำลองภาพให้เสมือนจริง(VR) เป็นต้น ทั้งนี้ GBCI ได้ลงทุนในบริษัท อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) ในระยะเริ่มต้นหลายแห่ง และลงทุนในบริษัทฟินเทคอื่น ๆ ด้วย ซึ่งความสามารถของบริษัทเหล่านี้มีผลเชิงกลยุทธ์ต่อการขยายตัวของระบบนิเวศ
Fincy เป็นธุรกิจฟินเทคสตาร์ทอัพของสิงคโปร์ ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 โดย ดั๊กลาส แกน (Douglas Gan) วาเนสซ่า กอฮ์ (Vanessa Koh)และหลิน หมิงว่าง (Lim Ming Wang) มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความซับซ้อนของการแลกเปลี่ยนสกุลเงินด้วยการสร้างกระเป๋าเงินหลายสกุลเงิน จัดหาโซลูชั่นทางเลือกที่สามารถถ่ายโอน มีความน่าเชื่อถือ และยั่งยืนสำหรับบริการทางการเงินที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สร้างเครือข่ายโซเชียลของตนเองในแอปพลิเคชั่น และการชำระเงินผ่านมือถือเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกัน
Fincy co-founders (from left): Vanessa Koh, Lim Ming Wang, Douglas Gan / Photo credit: Fincy
Vanessa Koh ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Fincy กล่าวว่า“การลงทุนความเสี่ยงของ GBCI Ventures นี้เป็นความไว้วางใจใน Fincy อย่างมาก เนื่องจาก Fincy เป็นโซลูชั่นเทคโนโลยีทางการเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในการแก้ไขปัญหาสกุลเงินในสถานะการจริง"
ตามที่มีการรายงาน Fincy จะใช้เงินทุนนี้เพื่อขยายฐานลูกค้าในสิงคโปร์และเร่งการเติบโตและการขยายตัวของบริษัทโดยจะเริ่มจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแห่งแรก ทั้งนี้ทางบริษัทได้กำหนดสถานที่สำนักงานในย่านศูนย์กลางธุรกิจของสิงคโปร์ที่มีขนาดพื้นที่ 6,700 ตารางฟุต เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีให้กับฝ่ายเทคนิค การพัฒนาผลิตภัณฑ์ กฎระเบียบ และทีมขายและการตลาด
นอกจากนี้ Fincy จะใช้เงินทุนที่ได้มาใหม่ในการขยายส่วนแบ่งการตลาด และจะใช้เงินประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐในการรับผู้มีความสามารถเข้าทำงาน และสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ขยายเครือข่ายศูนย์ข้อมูลในเอเชีย และรับสมัครผู้มีความสามารถด้านไฮเทคโนโลยี "เชิงกลยุทธ์"จำนวน 50 คน โดยในปัจจุบัน Fincy ได้มีพนักงานมากกว่า 500 คนในเอเชีย และร่วมมือกับพ่อค้าหลายพันรายในกัมพูชาและสิงคโปร์ โดยเฉพาะในประเทศกัมพูชา Fincy ได้รับการยอมรับจากร้านค้ามากกว่า 700 ราย และในขณะเดียวกันมีบริษัทมากกว่า 40 แห่งที่ให้ฟินซี่เป็นช่องทางการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน
ในรายงานที่เกี่ยวข้องของ "Financial Insight" Fincy ได้กล่าวว่า ภายใต้นโยบายและข้อบังคับของท้องถิ่น ผู้ใช้ Fincy สามารถโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศเพื่อเติมเงินในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้ และแลกเปลี่ยนสกุลเงินในอัตราแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่ายิ่งกว่า โดยมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำสุด 0% ในขณะการให้บริการที่สะดวกสบายไร้กังวลแก่ผู้ใช้ Fincy ยังคงมุ่งมั่นในการขัดเกลาเทคโนโลยีของตนและปรับปรุงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแอปพลิเคชั่นที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นในการให้บริการการทำธุรกรรมสำหรับผู้ใช้งาน
ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการเงินได้เข้าสู่ยุคใหม่แห่งการพัฒนาที่มีความปลอดภัย และนวัตกรรมฟินเทคที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยเริ่มตั้งแต่การสำรวจที่เกิดขึ้นเองไปจนถึงการพัฒนาการวางแผน และจากการพัฒนาแบบประปรายไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างระบบ และ Fincy กำลังพยายามขยายพันธมิตรไปทั่วโลกเพื่อสร้างความร่วมมือแบบ win-win
Yan Yidong ผู้ร่วมก่อตั้ง Fincy กล่าวว่า " การอำนวยความสะดวกผ่านโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ปลอดภัยบนฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชนและการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง Fincy สามารถให้บริการทางเลือกที่ปราศจากการสัมผัสตัว มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับบริการทางการเงินที่มีอยู่ให้กับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคหลังการแพร่ระบาดไวรัสโควิด"
แหล่งที่มา:http://www.8coint.com/2020/09/fincy/