วัดหลิงกู่ในนานกิง เริ่มก่อสร้างเมื่อปีค.ศ.514 ท่านจูหยวนจางแห่งราชวงศ์หมิงได้พระราชทานชื่อ“วัดหลิงกู่ฉาน”ด้วยพระองค์เอง และขนานนามว่าเป็น“ป่าเซนแห่งแรกในโลก” เป็น1ใน3วัดใหญ่ในสมัยราชวงศ์หมิง ห้องโถงหลัก(อนุสรณ์สถานพระถังซัมจั๋ง)สักการะเจดีย์ทองคำขนาดเล็กที่บรรจุพระธาตุของพระถังซัมจั๋งอยู่ ล้ำค่าอย่างยิ่ง ในโอกาสที่วัดหลิงกู่จัดแสดงนิทรรศการเท่านั้นถึงจะได้เห็น
ปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม ยามค่ำในฤดูร้อนของทุกปี เป็นช่วงที่แมลงหิ่งห้อยในวัดหลิงกู่น่าชมที่สุด แมลงหิ่งห้อยนับหมื่นตัว แสดงการต้อนรับอย่างอบอุ่นในฤดูร้อน แสงสว่างระยิบระยับ งดงามและตราตึงใจ รีบหยิบกล้องถ่ายรูปแล้วชวนเพื่อนๆ ไปเติมเต็มความฝันแห่งค่ำคืนฤดูร้อนกันเถอะ!
เขตท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมภูเขาหนิวโส่วซาน ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมแล้ว
เขตท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมภูเขาหนิวโส่วซานในนานกิง ได้รักษามรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของภูเขาหนิวโส่วซานไว้อย่างครบถ้วน ได้บูรณะภูมิทัศน์ระบบนิเวศทางธรรมชาติของภูเขาหนิวโส่วซาน วัฒนธรรมของศาสนาพุทธนิกายเซนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ภูเขาหนิวโส่วซานมีอีกชื่อคือภูเขาเทียนเชวียซาน เป็น1ใน4สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจินหลิง ภูเขาแห่งนี้ตั้งชื่อจากลักษณะยอดเขาสองยอดรูปร่างเหมือนเขาวัว ภูเขาหนิวโส่วซานได้อนุรักษ์โบราณสถานทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย ได้ดึงดูดราชวงศ์ นายพล และนักปราชญ์จำนวนนับไม่ถ้วนมาฝึกตนที่ที่ พลางจิบชาพลางเขียนบทกวี ได้หลงเหลือบทกวีเอาไว้มากกว่า400บทกวี วันที่1มิถุนายนเป็นต้นไป พื้นที่ในร่มของเขตท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมภูเขาหนิวโส่วซานได้เปิดให้เข้าชมอีกขั้นหนึ่งแล้ว!
วัดชีเสีย(栖霞寺)ตั้งอยู่ในเขตชีเสีย เมืองนานกิง มีอีกชื่อคือ วัดโบราณชีเสีย(栖霞古寺) ถึงปัจจุบันมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 1,500 ปี เป็น 1 ใน 4 วัดที่มีชื่อเสียงของจีน มีความสำคัญในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ในยุคราชวงศ์ใต้มีชื่อเสียงใกล้เคียงกับวัดจีหมิง(鸡鸣寺) วัดติ้งซาน(定山寺) เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาในสมัยราชวงศ์เหนือ-ใต้
ตั้งแต่สมัยโบราณ ภูเขาชีเสีย(栖霞山)อันงดงาม ได้ดึงดูดนักเขียน กษัตริย์และขุนนางจำนวนมากให้มาเยี่ยมเยือนที่นี่ และจักรพรรดิเฉียนหลงยังเดินทางมาที่วัดชีเสียถึง 5 ครั้งอีกด้วย ในฤดูใบไม้ร่วงของทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม วัดชีเสียไม่เพียงแต่มีต้นเมเปิ้ลแดงให้คิดถึงเท่านั้น หากเพียงได้เห็นความงามของที่นี่แล้ว คุณจะพบว่าวัดชีเสียในช่วงปลายฤดูร้อนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงนั้นทำให้ผู้คนต้องหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมืองและเจดีย์สูง ประตูสีแดงและอิฐสีเขียว แต่ละแห่งล้วนเต็มไปด้วยร่องรอยของประวัติศาสตร์
