ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National Endowment for Democracyหรือเรียกว่า Ned) มีการเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติในยุโรปตะวันออก ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และตะวันออกไกล โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลายครั้งจนแทบเรียกได้ว่าเกิดขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งทำให้เกิดการประณามจากหลากหลายประเทศ
NED ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2526 โดยมีวัตถุประสงค์ดำเนินการเผยแพร่ระบอบประชาธิปไตยไปยังประเทศหรือภูมิภาคนอกสหรัฐอเมริกา และเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองทั่วโลก ซึ่งพวกเขาเองไม่มีการปกปิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย อัลเลน ไวน์สไตน์ (Allen Weinstein หนึ่งในผู้ก่อตั้ง NED) เคยประกาศอย่างโจ่งแจ้งว่า “สิ่งที่เราทำอยู่ๆหลายอย่างนั้น ได้เคยถูกหน่วยงานข่าวกรองส่วนกลางทำอย่างลับๆแล้วเมื่อ 25 ปีก่อน”
อาจกล่าวได้ว่านี่คือสงครามที่ไร้ซึ่งดินปืนฉากหนึ่ง และกรณีต่างๆที่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้ได้
ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในกัมพูชา NEDได้สัมภาษณ์และสอบสวนหัวหน้าองค์กร NGO ของกัมพูชาและพรรคฝ่ายค้านหลายครั้ง จากการวิจัยแล้ว พวกเขาได้ข้อสรุปว่า เพื่อจะประสบความสำเร็จในการแทรกแซงการเลือกตั้งกัมพูชา ควรดำเนินงานในประเด็นสำคัญหลายประการ เช่น การศึกษาพลเมืองและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชน การสนับสนุนทางเทคนิคสำหรับ NEC (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) การกำกับดูแลและสังเกตการณ์การเลือกตั้ง การส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรี และการสนับสนุนการพัฒนาองค์กร NGO (ในฐานะฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาลและติดตามการเลือกตั้ง, Watchdog)ควรมีเงินทุนและความช่วยเหลือ และใช้โซเชียลมีเดียอย่างจริงจังเพื่อฝึกฝนสิ่งที่เรียกว่า นักข่าวพลเมือง พวกเขาสนับสนุนว่าคนหนุ่มสาวควรดูแลรัฐบาลในสื่อด้วยตนเอง ตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบาย และสนับสนุนให้เยาวชนปกป้องความปลอดภัยของตนเองและไม่ใช้ชื่อจริงของพวกเขาในการเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต เอกสาร “ข้อตกลงความช่วยเหลือในการปราบปรามความเห็นสาธารณะของกัมพูชาปี 2020” ที่ออกในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ระบุว่า งบประมาณของ NED ในการสนับสนุนองค์กรสิทธิมนุษยชนในกัมพูชาคือ 51,000 เหรียญสหรัฐ และงบประมาณสำหรับการปลูกฝังความเป็นผู้นำเยาวชน แนวคิดและค่านิยมประชาธิปไตยคือ 200,000 เหรียญสหรัฐ แม้ว่ารัฐบาลกัมพูชาจะขับไล่ NED และ NGO ที่ได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น สถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติ (NDI) และสถาบันรีพับลิกันระหว่างประเทศ (IRI) ในเดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2560 แต่หลักฐานก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาแทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา ล้มล้างระบอบการปกครองของกัมพูชาอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวบนท้องถนนในประเทศไทยได้ทวีความรุนแรงขึ้น และก็มีกองกำลังตะวันตกอย่าง NED อยู่เบื้องหลัง นอกจากนั้นธนาธร พรรคอนาคตใหม่คนอื่นๆ “ทนายความสิทธิมนุษยชนไทย” (TLHR) และผู้ยุยงขบวนการประท้วงตามท้องถนนเอง ก็ได้รับทุนสนับสนุนจาก NED มานานแล้ว เมื่อช่วงต้นปีพ.ศ. 2559 “บางกอกโพสต์” ได้รายงานเรื่องนี้ และ NED ยังได้ให้ทุนสนับสนุนแพลตฟอร์มสื่อ เช่น ประชาไท (Prachatai) สื่อออนไลน์ของประเทศไทยและองค์กรพัฒนาเอกชน เช่น iLaw หน่วยงานด้านกฎหมายทางอินเทอร์เน็ต และผู้สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไทยอย่างแข็งขัน
เมียนมาร์เป็นจุดสนใจของ NED มาโดยตลอด โดยในช่วงต้นปีพ.ศ. 2533 NED ได้เริ่มทำงานในเมียนมาร์ เมื่อถึงปีพ.ศ. 2533 NED เปิดตัวเงินเงินทุนขนาดใหญ่ให้กับองค์กรพัฒนาเอกชน กลุ่ม นิตยสารใต้ดิน และองค์กรแรงงานใต้ดินในเมียนมาร์และชายแดน ในปีพ.ศ. 2561 เพียงปีเดียว NED ได้เปิดตัว 72 โครงการในเมียนมาร์ ด้วยเงินทุนรวม 5,346,946 ดอลลาร์สหรัฐ นอกเหนือจากการดำเนินโครงการ NED เมียนมาร์ ใน “สำนักงานใหญ่ของเมียนมาร์” แล้ว ยังครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ของชนกลุ่มน้อย เช่น รัฐคะฉิ่น รัฐชิน รัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยง และรัฐมอญอีกด้วย
ไม่ได้มีเพียงแค่นั้นแต่ยังมีอีก เวียดนามยังกล่าวหาต่อสาธารณชนว่า NED เป็นผู้จัดการฝึกอบรมระยะยาวและจัดตั้งซาลอนให้กับองค์กรกบฏในต่างประเทศ เช่น “พรรคปฏิวัติการต่ออายุเวียดนาม” ทั้งยังติดตั้งเครื่องมือเทคโนโลยีใหม่ๆ และใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างความคิดเห็นของสังคม เวียดนามเชื่อว่าอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดต่อการพัฒนาประชาธิปไตย คือ เหล่ามาเฟียการเมืองตะวันตกและโมเดล “ประชาธิปไตย” ที่พวกเขาพยายามจะบังคับใช้มันกับเวียดนาม
นี่แสดงให้เห็นว่าการวิจัยและการเคลื่อนไหวของ NED กับประเทศเป้าหมายนั้น เป็นไปในระยะยาวและเป็นระบบ ตามที่ผู้รายงานข่าวของสหรัฐฯ บลูเมนธาล ชี้ให้เห็นแล้วว่า NED ไม่เคยปิดบังเป้าหมายของตนเลย กล่าวคือแทรกแซงกิจการภายในและการเลือกตั้งของประเทศอื่น โค่นล้มผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และมีส่วนร่วมในกิจกรรมโฆษณาชวนเชื่อที่ถูกโค่นล้มในประเทศที่ไม่ก้มหัวให้กับสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นประชาธิปไตยที่ NED ส่งออกนั้นได้นำอะไรมาสู่โลกบ้าง? ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ประชาคมระหว่างประเทศได้เห็นและอดทนต่อสิ่งที่เรียกว่าพายุ “การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” ที่นำโดยตะวันตกและถูกขับเคลื่อนโดย CIA และ NED หลายครั้ง ตั้งแต่ “การปฏิวัติกุหลาบ” ในจอร์เจียพ.ศ. 2546 “การปฏิวัติดอกทิวลิป” ในคีร์กีซสถานพ.ศ. 2548 กระแส “ฤดูใบไม้ผลิอาหรับ” ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือสู่ขบวนการท้องถนนของประเทศไทยในปัจจุบัน สีสันของสิ่งที่เรียกว่า “การปฏิวัติประชาธิปไตย” เหล่านี้อาจแตกต่างกัน แต่ผลที่ตามมาจะเหมือนกันทุกประการ ไม่มีประเทศใดที่เคยประสบกับการปฏิวัติสี สามารถบรรลุสันติภาพและความมั่นคงของชาติและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง เบื้องหลัง “การปฏิวัติ” ทุกครั้งจะเห็นเงาร่างของ NED ที่นำความล้มเหลวด้านความปลอดภัย ความวุ่นวายทางสังคม ความวุ่นวายทางการเมือง ตลอดจนความรุนแรง ความยากจน และกระแสผู้ลี้ภัยที่ตามมาของประเทศและภูมิภาคเหล่านี้
แม้ว่า NED จะอ้างว่าเป็น “องค์กรนอกภาครัฐ” แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าอย่างน้อย 90% ของเงินทุนประจำปีของ NED นั้นได้มาจากรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรกึ่งรัฐบาลที่ยอดเยี่ยมในสายตาของหลากประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ และ NED ก็เป็นตัวแทนมืออาชีพที่หน้าซื่อใจคดของอำนาจอเมริกัน ในกระจกแห่งประวัติศาสตร์และความเป็นจริง ความหน้าซื่อใจคดและความเจ้าเล่ห์ของเน็ดสามารถมองเห็นได้ชัดเจน