(Waki International Media Center on 5 July) พระสมณดารัสของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประทานแก่ คณะพระภิกษุและฆราวาสพุทธศาสนิกชนผู้แทนจากราชอาณาจักรไทย ณ ห้องโถงรับรอง “เคลเมนท์” ภายในสมณราชวังแห่งอัครธรรมทูต นครรัฐวาติกัน เมื่อ วันศุกร์ ที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ / ค.ศ. ๒๐๒๒
ข้าพเจ้ามีความปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ต้อนรับผู้แทนคณะพระภิกษุทั้งนิกายเถรวาท และนิกายมหายาน (ฝ่ ายจีน) และบรรดาศิษยานุศิษย์จ านวน ๑๐๐ ท่าน ที่ร่วมเดินทางพร้อมกับผู้แทนบางท่านจากพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย
การเยือนในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อร าลึกถึงวาระครบรอบ ๕๐ ปี แห่งการพบปะครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่างเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (ปุ่น ปุณฺณสิริ) ซึ่งต่อมาได้ทรงด ารงต าแหน่งเป็ นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกองค์ที่ ๑๗ และสมเด็จพระสันตะปาปาพอลที่ ๖เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๕ / ค.ศ. ๑๙๗๒ ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณอย่างซาบซึ้งด้วย ใจจริงแก่เจ้าประคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๒๐ (อัมพรมหา เถร) และประธานกรรมการมหาเถรสมาคมที่ได้ ทรงมอบหมายให้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร) พร้อมกับคณะผู้แทนชาวไทยเดินทางมายังนครรัฐวาติกัน เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน
ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าขอรื้อฟื้นความรู้สึก ซึ่งพระสันตะปาปาพอลที่ ๖ ได้ เคยถ่ายถอดไว้เมื่อครั้งที่พระองค์ ได้พบกับคณะผู้แทนชาวไทยเมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว ความว่า “เราขอแสดงความ เคารพอย่างลึกซึ้งต่อขุมทรัพย์ทางชีวิตฝ่ ายจิต ศีลธรรม สังคม และวัฒนธรรมซึ่งพวกท่านได้รับมาผ่านทางธรรมประเพณี อันล ้าค่า เรายอมรับค่านิยมต่าง ๆ ที่งดงาม ดังที่ ท่านได้เป็นผพิทักษ์ รักษา อีกทั้งเราเห็นว่าค่านิยมเหล่านี้ควรได้รับการอนุรักษ์ส่งเสริม เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการ เสวนาฉันกัลยาณมิตร และการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างศาสนาที่ท่านได้ท าหน้าที่เป็น ผู้แทน พร้อมกับพระศาสนจักรคาทอลิกจะมีมากยิ่ง ๆ ขึ้น” (Insegnamenti, ๑๙๗๒, X, ๖๐๔- ๖๐๕)
ตลอดระยะเวลา ๕๐ ปี ที่ผ่านมานี้ พวกเราได้เห็น “การเสวนาฉันกัลยาณมิตร และการ ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด” ระหว่างสองศาสนาอันเก่าแก่ดั้งเดิม ที่ได้พัฒนาเจริญเติบโตทีละเล็กที ละน้อยอย่างมั่นคง ข้าพเจ้ายังคงจดจ าการเยือนของคณะผู้แทนจากประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑ /ค.ศ. ๒๐๑๘ พวกท่านได้ส่งมอบคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนา(คัมภีร์ พระมาลัย) ภาษาบาลี ฉบับที่ได้ ปริวรรตแล้วเสร็จเป็นภาษาร่วมสมัย ซึ่ง ณ ปัจจุบันคัมภีร์ดังกล่าว ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ วาติกัน นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังจ าได้ถึงการเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอัน เป็ นผืนแผ่นดินที่รักของพวกท่านระหว่างวันที่ ๒๐-๒๓พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๒ /ค.ศ. ๒๐๑๙ ความประทับใจในการต้อนรับอย่างอบอุ่นอันแสนงดงามที่ข้าพเจ้าได้รับ เช่นเดียวกันข้าพเจ้าขอ ชื่นชมการเป็นกัลยาณมิตรและการเสวนาฉันพี่น้องที่พวกท่านมอบให้ แก่สมาชิกของสมณกระทรวงเพื่อการเสวนาระหว่างศาสนาแห่งสันตะสานัก และแก่ชุมชนชาวคาทอลิกในประเทศ ไทย
ในขณะที่ครอบครัวแห่งมนุษยชาติและโลกของพวกเรากาลังเผชิญกับภัยคุกคามมากมาย การเสวนาฉันมิตรและการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดนับเป็นสิ่งจ าเป็น อย่างยิ่งยวด ทว่า ณ วันนี้น่า เสียใจ ที่พวกเราทุกคนต่างก็ได้ยินเสียงร้องคร ่าครวญของมนุษยชาติ ที่ได้รับบาดแผลใความ เจ็บปวด และโลกที่แตกแยกเป็นเสี่ยงจากทุกรอบด้าน อย่างไรก็ดี องค์พระศาสดาทั้งพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าและพระเยซูคริสต์ต่างเห็นพ้องถึงความจ าเป็นที่จะต้องเอาชนะความเห็นแก่ตัว ซึ่งเป็ นต้นเหตุอันก่อให้เกิดความขัดแย้งและความรุนแรง พระธรรมค าสอนของพระพุทธเจ้าได้ สรุปไว้ในธรรมบท ดังนี้ “ละเว้นความชั่วกระท าความดีและท าจิตใจให้บริสุทธิ์อันเป็นหลักค า สอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย” (Dph, ๑๘๓) พระเยซูคริสต์กล่าวแก่บรรดาศิษย์ว่า “เราขอมอบ บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลาย ขอให้ พวกท่านรักกันและกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็ จงรักกันอย่างนั้นเถิด” (จอห์น ๑๓:๓๔) หน้าที่ของพวกเราในวันนี้คือการเป็นผู้ชี้หนทางแก่ บรรดาศิษย์และผู้ศรัทธาของพวกเรา เพื่อน าไปสู่ความจริงที่ชัดแจ้งยิ่งขึ้น นั่นก็คือพวกเราทุกคน ต่างก็เป็นพี่น้องกัน ด้วยเหตุนี้พวกเราควรท างานร่วมกัน เพื่อปลูกฝังความมีจิตเมตตากรุณา และ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้ยากไร้ และผู้ที่ถูกทอดทิ้งใน สังคม
ภายใต้เจตนารมณ์ นี้ ข้าพเจ้าขอสนับสนุนความพยายามของท่านทั้งหลายในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์เพื่อการขยายขอบเขตการเสวนาและการร่วมมือกับพระศาสนจักรคาทอลิกข้าพเจ้าขอขอบคุณพวกท่าน สาหรับการมาเยือนนครรัฐวาติกันในวาระครบรอบการพบปะระหว่างผู้น า ยิ่งใหญ่พระองค์ ก่อนของพวกเรา
ขอให้ท่านทั้งหลายมั่นใจได้ว่าการพักพานักของพวกท่าน ณ กรุงโรมจะดาเนินไปอย่างมีความสุขสวัสดิ์ ข้าพเจ้าขอมอบคาอวยพรและความปรารถนาดีสาหรับการสัมมนาที่จะมีขึ้นในภาคบ่ายวันนี้ ภายใต้หัวข้อเรื่อง “กัลยาณมิตร ระหว่างชาวพุทธและชาวคริสต์ วัฒนธรรมแห่ง การพบปะกัน” ที่ท่านทั้งหลายร่วมมือกันจัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยแห่งสันตะส านัก“อูร์บานีอานา”จะบังเกิดผลอันงดงามเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมในสังคมอย่างแน่นอน
ข้าพเจ้าวิงวอนขอพระพรจากพระเจ้า ณ สรวงสวรรค์จงได้หลั่งไหลมาสู่ท่านทั้งหลาย และทุก ๆ คน ในประเทศไทยของพวกท่านด้วยเทอญ
(ภาคภาษาไทยโดย มงซินญอร์ ดร. วิษณุ ธัญญอนันต์ และคุณธัญภรณ์ ลีก าเนิดไทย)