สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ติวเข้มกรรมการทั่วประเทศ รับมือการเปลี่ยนแปลงผ่านการโค้ชชิ่งจากโค้ชจิตอาสา รองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในและต่างประเทศ
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยและสถาบัน BE Management Coach ได้ร่วมกันแถลงความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพของกรรมการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ผ่านโครงการ “โค้ชจิตอาสา ชวนเอสเอ็มอีไทย ตกผลึกคิดเดินหน้า เพื่อนำพาสู่ความสำเร็จ Coaching for Accelerating Business Success” เพื่อส่งเสริม พัฒนา และขยายศักยภาพของกรรมการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ที่เป็นทั้งผู้ประกอบการ และผู้นำองค์กร ด้วยกระบวนการโค้ชแบบสากล
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยถึงโครงการ “โค้ชจิตอาสา” ว่าโครงการนี้เกิดจากได้ร่วมหารือกับ ดร.สมฤดี ศรีจรรยา ซึ่งเป็นผู้ชี่ยวชาญในวงการยุทธศาสตร์การตลาดและอดีตกรรมการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)ซึ่งมีโอกาสได้เรียนรู้ การเป็นโค้ชอย่างเป็นระบบ จากสถาบัน BE Management Coach ว่าในภาวะปัจจุบัน หากกรรมการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ได้มีโอกาสสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองและธุรกิจ ผ่านกิจกรรมการโค้ชชิ่ง จะทำให้ได้เห็นมุมมองและกระจกสะท้อนการคิดของตนเอง ซึ่งจะทำให้กรรมการสามารถทบทวน การดำเนินธุรกิจตนเอง และพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้ ตลอดจนสามารถพัฒนาความคิด เพิ่มขีดความสามารถให้แก่กรรมการของสมาพันธ์ฺ ผู้ซึ่งเป็นผู้นำของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในแต่ละจังหวัด และแต่ละอุตสาหกรรม จะสามารถนำสิ่งที่ได้จากการโค้ชไปถ่ายทอดให้กับสมาชิกของสมาพันธ์เอสเอ็มอีต่อไป
โครงการ “โค้ชจิตอาสา ชวนเอสเอ็มอีไทย ตกผลึกคิดเดินหน้า เพื่อนำพาสู่ความสำเร็จ Coaching for Accelerating Business Success” ได้รับความร่วมมือจากสถาบัน BE Management Coach นำโดยโค้ชบี หรือนางสาวขนิษฐา หล่อลักษณ์ CEO ของสถาบันฯ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โครงการนี้จะทำให้เราสามารถเป็น SMEs ที่แข็งแกร่ง เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทย เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ เนื่องจากปัญหาที่ถาโถม เข้ามาไม่มีแค่เรื่องเศรษฐกิจ มีเรื่องสังคม สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี เพื่อการอยู่รอดของ SMEs ต้องเรียนรู้เรื่องของบริหารความเสี่ยงในทุกมิติและสามารถที่จะทำให้ SMEs เข้าถึงกลไกแหล่งทุน
การพัฒนานวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีดิจิทัลในการที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจ การที่มีโค้ชมา เป็นช่วยเป็นผู้ชี้แนะ ที่มีองค์ความรู้ประสบการณ์ ก็จะทำให้พวกเราสามารถ ที่จะได้เห็นฉากทัศน์ของตัวเอง และฉากทัศน์ในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากโครงการนี้เป็นการทดลอง การพัฒนาผู้ประกอบการ จึงทำให้รับผู้เข้าร่วมโครงการได้เพียง 50 ท่าน และเพื่อให้เกิดการขยายผล จึงได้เริ่มจากรับผู้เข้าร่วมโครงการที่เป็นกรรมการของสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยก่อน และหากประเมินผลโครงการแล้วได้ผลดี จะขยายจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการในรุ่นต่อๆ ไป
นางสาวขนิษฐา หล่อลักษณ์ (โค้ชบี) “ในฐานะที่เป็น CEO สถาบัน BE Management Coach รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยในการพัฒนากรรมการของสมาพันธ์ในครั้งนี้ การโค้ชตามมาตรฐานสากล (Coaching) จะเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่ง ในการช่วยส่งเสริมและเร่งพัฒนาศักยภาพของกรรมกาารให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายธุรกิจที่แต่ละท่านกำหนดไว้ได้ดียิ่งขึ้น”
โครงการนี้จะเปิดเริ่มรับสมัครกรรมการที่สนใจเข้าร่วมเดือนมิถุนายน หลังจากนั้น ทางกรรมการบริหาร จะทำการคัดเลือกกรรมการที่มีความพร้อมและมีเป้าหมายที่ต้องการโค้ช จำนวน 50 ท่าน เข้าร่วมโครงการ โดยการโค้ชตัวต่อตัวทั้งในรูปแบบออนไซต์หรือออนไลน์ตามที่ผู้เข้าร่วมโครงการสะดวก โดยมีโค้ชจิตอาสาจำนวน 50 ท่าน ซึ่งเป็นบุคลากรจากสาขาวิชาชีพต่างๆ ที่ผ่านการเรียนรู้ฝึกฝนและ จบหลักสูตรการโค้ชจากสถาบัน BE Management Coach ทั้งนี้สถาบันฯ ได้จัดให้มีกรอบ การทำงานของโค้ชจิตอาสาที่ชัดเจน เป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีการติดตามสถานะต่างๆ โดยทีมบริหารโครงการ (Project Management Office) ของสถาบันที่มีประสบการณ์ เพื่อให้มีการวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ก่อนที่จะสรุปผลโครงการร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยในเดือนกันยายน 2567
สถาบัน BE Management Coach ก่อตั้งโดย นางสาวขนิษฐา หล่อลักษณ์ หรือโค้ชบี เป็นสถาบันพัฒนาศักยภาพโค้ชตามมาตรฐานสากล โดยหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์การโค้ชนานาชาติ (International Coaching Federation – ICF) องค์กรการโค้ชระดับโลกที่มีมาตรฐานจรรยาบรรณและ กำหนดสมรรถนะหลักในการทำงานวิชาชีพโค้ชไว้อย่างเข้มแข็ง สถาบันฯ มีวิสัยทัศน์ในการเป็นสถาบัน ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดในการพัฒนาองค์กร ผู้นำ และบุคลากร ด้วยศาสตร์และศิลป์ การโค้ชที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานระดับโลก