กรมการค้าภายในเดินหน้าช่วยชาวสวนลำไยต่อเนื่อง ปล่อยคาราวานลำไยกว่า 150 ตัน นำกระจายขายทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด ผ่านห้างสรรพสินค้า หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม นิคมอุตสาหกรรม
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้เดินหน้ามาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 ตามนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้ดูแลผลไม้อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด เป็นคิวของลำไยภาคเหนือที่กำลังออกสู่ตลาด จึงได้ประสานผู้ประกอบการจำนวน 16 ราย คือ ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ได้แก่ Tops,Go Wholesale,The Mall,Makro,Lotus และ Big C ผู้รวบรวม ได้แก่ บจก.วาย โช ฟรุ๊ต,บจก.เอฟแอลเอ็น กู๊ดส์,ผู้ส่งออก ได้แก่ บจก.มาตา เทรดดิ้ง,บจก.เอ็มที ฟรุ๊ตแลนด์ และ บจก.มิสเตอร์ฟรุ๊ตตี้ โรงงานแปรรูป ได้แก่ บจก.สตูดิโอ จี บาร์ และ บจก.นานาฟรุ๊ต เข้าไปรับซื้อผลผลิตลำไยจากเกษตรกร และเร่งระบายลำไยออกจากแหล่งผลิต
ทั้งนี้ หลังจากเข้าไปรับซื้อ ได้จัดส่งลำไยกระจายไปยังจุดต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทันที โดยปล่อยคาราวานลำไยกว่า 150 ตัน เพื่อนำไปจำหน่ายยังจุด ๆ ต่าง ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และเซ็นทรัล หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม นิคมอุตสาหกรรม สถานีโทรทัศน์ ศูนย์ราชการ แหล่งชุมชน และผ่านรถโมบายพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภค และนักท่องเที่ยว สามารถบริโภคลำไยคุณภาพจากแหล่งผลิตได้พร้อมกันทั่วประเทศ
ส่วนการเร่งระบายผลผลิตในลำดับถัดไป กรมได้ประสานสถานีบริการน้ำมันรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น PT,PTT Station,เชลล์,บางจาก และอีกหลายแห่ง ให้เข้ามาช่วยซื้อผลผลิตลำไย และนำไปเป็นของสมนาคุณ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เข้ามาเติมน้ำมัน ซึ่งจะช่วยเร่งระบายผลผลิตให้กับเกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง
นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า กรมยังได้ร่วมมือกับสมาคมลำไยอบแห้งภาคเหนือ ช่วยดูดซับผลผลิตมาแปรรูปแบบอบแห้ง โดยจะเข้าไปรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร 7 กลุ่ม คือ สหกรณ์การเกษตรประตูป่าจำกัด สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.ลำพูน จำกัด สหกรณ์ส่งเสริมการเกษตรป่าซาง จำกัด วิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์พืชผักสมุนไพรและผลไม้ วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ลำไย ตำบลหนองช้างคืน วิสาหกิจลำไยแปลงใหญ่ตำบลวังผาง และวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรกรบ้านไร่ช้าง โดยมีเป้าหมาย 1 แสนตัน
นอกจากนี้ มีแผนที่จะเพิ่มช่องทางใหม่ ๆ ในการดูดซับผลผลิต โดยจะเน้นเรื่องการนำไปแปรรูปเป็นลำไยแกะเปลือกแกะเม็ด ซึ่งจะทำให้ตลาดลำไยกว้างขึ้น และสามารถเก็บผลผลิตได้นานขึ้น โดยลำไยที่แปรรูปแล้ว สามารถนำไปทำเป็นของหวาน ของทานเล่น และมีโอกาสในการขยายตลาดส่งออกได้เพิ่มขึ้น สามารถบุกทะลวงไปถึงยุโรปและอเมริกาได้
ขณะเดียวกัน จะช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกร ในการทำตลาดทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ โดยร่วมมือกับไปรษณีย์ในการจัดส่งสินค้าให้กับเกษตรกร และกรมยังได้ช่วยเหลือโดยการแจกกล่องขนาดบรรจุ 10 กิโลกรัม ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือ เพิ่มเป็น 80,000 กล่อง จากปีที่แล้ว 30,000 กล่อง ซึ่งจะทำให้เกษตรกร มีโอกาสทำตลาดเพิ่มมากขึ้น
ปีนี้ผลผลิตลำไยภาพรวมของประเทศ ทั้งในฤดูและนอกฤดู จะมีปริมาณ 1.44 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2% เป็นผลผลิตทางภาคเหนือประมาณ 1 ล้านตัน โดยผลผลิตจะออกมากช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. โดยกรมได้เตรียมมาตรการรับมือไว้พร้อมแล้ว ทั้งประสานผู้ส่งออก ผู้รวบรวมในและนอกพื้นที่เข้าไปซื้อ ทำอบแห้งเป้าหมาย 1 แสนตัน ดึงปั๊มน้ำมันซื้อไปเป็นของสมนาคุณ และจัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคทั่วประเทศ และผลักดันให้มีการส่งออกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดใหม่อย่างอินเดีย และปัจจุบันสถานการณ์ราคาอยู่ในเกณฑ์ดี เกรด AA อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 40-45 บาท สูงกว่าปีที่ผ่านมา ที่ประมาณ กก.ละ 30-35 บาท ซึ่งกรมจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กำกับดูแลให้มีการปิดป้ายรับซื้อให้ชัดเจน และป้องกันการฉวยโอกาสกดราคาต่อไป