“พาณิชย์” ตั้งเป้าปีนี้ ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ ทุบสถิติสูงสุด เฉียด 1 แสนราย เชื่ออานิสงส์ ดิจิทัลวอลเล็ต ท่องเที่ยว ส่งออกฟื้น ดันตั้งบริษัทใหม่คึกคัก แม้ครึ่งปีแรกจะชะลอเล็กน้อย
นายวิทยากร มณีเนตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คาดการณ์สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในปี 67 จะมียอดอยู่ที่ 90,000-98,000 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เคยมีมา สาเหตุมาจากช่วงปลายปีจะมีโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตเข้ามาใช้ ซึ่งจะทำให้มีความคึกคักในด้านการจับจ่ายใช้สอย การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ซึ่งเร่งให้เกิดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ขึ้น ทำให้เศรษฐกิจคึกคักกว่าเดิม
นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วง 3 เดือน ก่อนที่เงินดิจิทัลวอลเล็ตจะออกมา ด้วยการเพิ่มเงินในกระเป๋าผู้ประกอบการรายเล็ก พ่อค้า แม่ค้า ทั้งการลดต้นทุนค่าเช่าร้าน ค่าเช่าแผง จัดตลาดนัดพาณิชย์ให้นำสินค้ามาขาย ซึ่งจะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้และการบริโภคด้วย เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยว ที่จะมีชาวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้นช่วงไฮซีซันปลายปี ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งโรงแรม ร้านอาหาร การขนส่ง และธุรกิจอื่น ๆ ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย ตลอดจนภาคการส่งออก ที่ปีนี้จะขยายตัวเป็นบวกได้ 1-2%
นายวิทยากร กล่าวว่า สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าช่วง 6 เดือนแรกปี 67 (ม.ค.-มิ.ย.) มีการตั้งใหม่รวม 46,383 ราย แม้จะลดลงเล็กน้อย 1.91% แต่ก็ถือว่าอยู่ในทิศทางที่ดี เพราะหากดูยอดเฉลี่ยต่อเดือน ตั้งใหม่ถึงเดือนละ 7,700 ราย เป็นตัวเลขที่สูงอยู่ ซึ่งหากดูแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะยังคงขยายตัวเพิ่มได้ต่อ เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจ และมาตรการของรัฐบาล
“ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกจะโตประมาณ 2.6% ในปี 67 เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา เพิ่ม 4% และเศรษฐกิจไทย อยู่ในช่วงที่กำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ทุนจดทะเบียนจัดตั้งสะสมรอบครึ่งปีแรก อยู่ที่ 145,078.60 ล้านบาท ซึ่งลดลง 66.15% โดยมีสาเหตุจากปีก่อนมีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมขนาดใหญ่ และการปรับโครงสร้างของยักษ์ธุรกิจค้าปลีกมูลค่านับแสนล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยอดจดทะเบียนเลิกกิจการก็มีเพียง 6,039 ราย ลดลงไปถึง 14.91% เช่นกัน แต่ทุนจดทะเบียน 76,748.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.72% เพราะ 6 เดือนของปี 2567 มีธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 4 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 52,794.05 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจผลิตเครื่องดื่ม 1 ราย ธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไม้ 1 ราย ธุรกิจเกี่ยวกับโทรคมนาคม 1 ราย และธุรกิจเกี่ยวกับเช่าห้องชุดพักอาศัย 1 ราย
ปัจจุบัน ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2567 มีการจดทะเบียนทั้งสิ้นจำนวน 1,923,618 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 30.19 ล้านล้านบาท โดยมีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่จำนวน 922,508 ราย แบ่งออกเป็น บริษัทจำกัด 77.97% ห้างหุ้นส่วนจำกัดและห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 21.87% และบริษัทมหาชนจำกัด 0.16%