ไมเดียประเทศไทย ร่วมงาน Bangkok RHVAC and Bangkok E&E 2024 โชว์นวัตกรรมใหม่ หนุนธุรกิจยั่งยืน
นายธนวัฒน์ วงศ์ชาญวุฒิ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มดี คอนซูเมอร์ แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ไมเดีย ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ไมเดียประเทศไทย ได้จัดทัพผลิตภัณฑ์ระบบทำความเย็นและสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อไปร่วมจัดแสดงในงาน Bangkok RHVAC and Bangkok E&E 2024 ภายใต้แนวคิด “ONE STOP SOLUTIONS for Net Zero Future” โดยมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่นำเทคโนโลยีในอนาคตมาผสานให้เกิดประโยชน์ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ตรงกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ และตระหนักถึงการใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นรากฐานสนับสนุนให้ทุกธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน ขอเชิญชวน กลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป เข้าชมได้ ระหว่างวันที่ 4-7 กันยายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา
ในการเข้าร่วมงาน Bangkok RHVAC and Bangkok E&E 2024 ไมเดีย ได้นำผลิตภัณฑ์ระบบทำความเย็นและสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรุ่นใหม่หลากหลายรุ่น โดยเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก อาทิ Midea VC MAX VRF Series และMidea Inverter Direct-Drive Centrifugal Chiller เป็นต้น โดยทุกผลิตภัณฑ์ สนับสนุนให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และนโยบายการดำเนินธุรกิจของ ไมเดีย ที่ตระหนักและให้ความใส่ใจถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าที่จะมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใน 24 เดือน ทั้งนี้ ในช่วงสองปีที่ผ่านมา Midea Building Technologies ได้สำรวจและดำเนินโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นพัฒนาและผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันสู่การเปลี่ยนแปลงให้กับสังคม
ปัจจุบัน ไมเดีย ได้ดำเนินการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง คือ เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ได้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น พลาสติกรีไซเคิล และ วัสดุทางเลือก ยิ่งไปกว่านั้น ยังใช้สารทำความเย็นที่มีค่า GWP ต่ำ เช่น R454B และ R290 อันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญต่อการสร้างระบบห่วงโซ่อุปทานสีเขียว (Green Supply Chain) อีกทั้งยังเพิ่มตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อมในการเลือกซัพพลายเออร์อีกด้วย ที่สำคัญคือ ตอบสนองความต้องการของซัพพลายเออร์ ซึ่งสำรวจพบว่าส่วนใหญ่มีแนวคิดเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นรากฐานที่สนับสนุนและผลักดันให้ ไมเดีย รวมไปถึง ซัพพลายเออร์และพันธมิตรทางธุรกิจ สามารถเติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
เป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ในปี 2568 จะตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจ ระบบทำความเย็นและสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยมุ่งใช้กลยุทธ์ นำเสนอคุณภาพสินค้าที่ดี มีส่วนร่วมและดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม และ ยกระดับบริการหลังการขาย เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นในระดับสากล พร้อมกับผลักดันยอดขายให้เติบโต 100% เพื่อตอกย้ำความสำเร็จและศักยภาพในการแข่งขันในตลาดระดับโลกที่มีการแข่งขันที่สูง และพยายามรักษามาตรฐานและตำแหน่งในรายชื่อ Fortune Global 500 ในฐานะองค์กรที่ทำรายได้รวมกันมากกว่าหนึ่งในสามของจีดีพีโลก สำหรับ ในช่วงที่ผานมา การรุกตลาดในประเทศไทย ไมเดีย ได้มอบหมายให้ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยชื่อดัง เป็นพรีเซ็นเตอร์ เครื่องปรับอากาศรุ่น mPro Easy ที่มาพร้อมนวัตกรรม “ฟินดำ” ฟินเคลือบสารไฮเปอร์กราฟีน ที่ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี และช่วยยืดอายุการใช้งานของคอยล์ร้อนได้มากขึ้นถึง 5 เท่า ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างมาก
การรุกตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ไมเดียประเทศไทย ตั้งเป้ารุกตลาดในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน โดยมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ เตาฝัง และ เครื่องดูดควัน ที่สามารถควบคุมผ่านระบบ Wi-Fi หรืออินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) ที่อำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีเครื่องทำน้ำอุ่นฟังก์ชันสปา โดดเด่นด้วยคุณสมบัติช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดและเสริมสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภค รวมไปถึงจะมีการเปิดตัวสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย
สำหรับ ไมเดียประเทศไทย ในปัจจุบัน มีโรงงานผลิต 5 แห่ง ในประเทศไทย ประกอบด้วย โรงงานเครื่องปรับอากาศ, โรงงานตู้เย็น, โรงงานเครื่องซักผ้า , โรงงานอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวขนาดเล็ก และ โรงงานคอมเพรสเซอร์ ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5 จังหวัดชลบุรี โดยจัดได้ว่าเป็นฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศในครัวเรือนของ ไมเดีย ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ไมเดียประเทศไทย เชื่อว่ายังมีโอกาสสามารถเติบโตในประเทศไทยได้อีก โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องปรับอากาศ ด้วยปัจจัยจากสภาพอากาศของประเทศไทยที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เครื่องปรับอากาศเป็นที่ต้องการของกลุ่มบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน และร้านค้า เป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะมีการสภาวะการแข่งขันในตลาดที่สูง แต่ก็มั่นใจว่าไมเดีย จะเติบโตได้อย่างมั่นคง บนมาตรฐานคุณภาพและการบริการที่ดีกับผู้บริโภค