ควรรู้อย่างยิ่ง! เปรียบเทียบ 3 กองทุน ได้สิทธิลดหย่อนภาษีปลายปี 2567 เปิดรายละเอียด สิทธิประโยชน์เป็นอย่างไร แตกต่างกันยังไงบ้าง
ใกล้สิ้นปีแล้ว หลายคนกำลังมองหาการลงทุนที่สามารถลดหย่อนภาษีปลายปี 2567 ได้อีกด้วย โดยกองทุนลดหย่อนภาษีที่มีอยู่ในปัจจุบันมี 3 กองทุนที่ควรรู้
กองทุน SSF RMF และ Thai ESG เป็นตัวเลือกในการลดหย่อนภาษีประจำปีได้อย่างดี มีสิทธิประโยชน์ เงื่อนไขอย่างไร?
เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ กองทุนลดหย่อนภาษี
1.SSF หรือกองทุนรวมเพื่อการออม
SSF เป็นกองทุนที่เน้นการออมระยะยาวและเป็นตัวช่วยในการลดหย่อนภาษีที่มาแทนกองทุน LTF
หลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ SSF ดังนี้
ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯซื้อหน่วยลงทุนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีแต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาทถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อไม่มีขั้นต่ำในการซื้อและไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
2.RMF หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
RMF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมเงินไว้ใช้จ่ายยามเกษียณอายุ
หลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ RMF ดังนี้
ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯซื้อหน่วยลงทุนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท และเมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาทถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก และขายได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี (หรืออย่างน้อยซื้อปีเว้นปี)
3.Thai ESG หรือกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน
Thai ESG กองทุนที่ให้วงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มอีก 300,000 บาท เพื่อส่งเสริมการลงทุนระยะยาวในกิจการที่เน้นความยั่งยืนของประเทศไทย
หลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ Thai ESG ดังนี้
ลงทุนสินทรัพย์ในประเทศ เช่น หุ้นหรือตราสารหนี้ ที่มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน และต้องได้รับการรับรอง SET ESG Ratings ของตลาดหลักทรัพย์ฯลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยที่วงเงินนี้จะไม่นับรวมกับการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF และเงินลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆไม่มีขั้นต่ำในการลงทุนต้องถือครอง 5 ปีขึ้นไป นับจากวันที่ลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี สามารถเลือกซื้อได้เฉพาะปีที่ต้องการลดหย่อนภาษี
ที่มา : Krungsri Prime