ผู้ค้า ชาวไร่ยาสูบ จี้รัฐทบทวนออก 2 กฎหมาย ภาษีอัตราเดียว งดสิ่งปรุงแต่งรสชาติ ห่วงเป็นตัวช่วยบุหรี่เถื่อนทะลัก ชี้เสียหายแล้วเกิน 2 หมื่นล้าน ชาวไร่เลิกปลูกเป็นหมื่นราย
นายธานินทร์ หิรัญโชติ นายกสมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ เปิดเผยว่า สมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบไทยได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันคัดค้านการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบจาก 2 อัตรา เหลืออัตราเดียว และค้านร่างกฎกระทรวงส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ และสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ ซึ่งเป็น 2 กฎหมายใหม่ที่รัฐบาลเตรียมนำออกมาใช้ เพราะกังวลว่าจะเป็นการซ้ำเติมอุตสาหกรรมยาสูบให้ได้รับความเสียหาย และเป็นช่องโหว่ให้บุหรี่เถื่อนระบาดเพิ่มขึ้นอีก
ปัจจุบัน มีการประเมินว่าปัญหาบุหรี่เถื่อน บุหรี่หนีภาษี รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจแล้วมากกว่า 20,000 ล้านบาท โดยตลาดบุหรี่ทั้งหมดจะมีบุหรี่เถื่อนอยู่ถึง 25% และยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีก สาเหตุหลักเนื่องจากการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ตั้งแต่ปี 60 ที่ผ่านมา ทำให้ราคาบุหรี่ที่ถูกกฎหมายแพงขึ้น ปัจจุบันเฉลี่ย 65-70 บาท ส่งผลให้มีการลักลอบบุหรี่จากต่างประเทศเข้ามาแข่ง ซึ่งขายเพียงซอง 30 บาทเท่านั้น
ดังนั้น ระหว่างนี้ขอให้รัฐบาลชะลอการปรับภาษี และใช้ภาษีเดิมแบบ 2 อัตราไปก่อน จนกว่าจะปราบปรามบุหรี่เถื่อนทุกชนิดได้จริง หรือถ้าเป็นไปได้อยากให้ลดภาษีบุหรี่ลง เพื่อให้บุหรี่ถูกกฎหมายแข่งขันกับบุหรี่เถื่อนได้ ตลอดจนในส่วนบุหรี่ไฟฟ้าที่คนไทยนิยม แต่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมเลย ก็เสนอให้รัฐบาลมีการเปิดพิกัดเพื่อควบคุมและจัดเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยดูแลคุณภาพ และสร้างรายได้แก่รัฐเพิ่มเติม
นายธานินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคลังมีเป้าหมายว่า การปรับภาษีสรรพสามิตยาสูบ ที่เริ่มตั้งแต่ปี 60 มุ่งเน้นการควบคุมจัดการและตอบโจทย์ใน 4 เรื่อง ได้แก่ เกษตรกร รายได้ของรัฐบาล สุขภาพของประชาชน และการปราบปรามและควบคุมบุหรี่ แต่จากผลที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน พบว่าส่วนแบ่งตลาดและปริมาณจำหน่ายบุหรี่ไทยลดลงต่อเนื่อง เกิดผลกระทบต่อระบบอุตสาหกรรมยาสูบไทยหลายภาคส่วน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะชาวไร่ยาสูบมีรายได้ไม่พอจนต้องเลิกไปหลายหมื่นราย ผู้ค้าส่งยาสูบและร้านเครือข่ายก็ขายได้ลดลง
ส่วนกฎหมาย การกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ และสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ มีข้อกังวลใจหากร่างกฎกระทรวงฯ มีผลบังคับใช้ จะทำให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบที่วางขาย ไม่สามารถใส่สารปรุงรสต่างๆ ได้ ซึ่งเป็นช่องโหว่ให้บุหรี่เถื่อนที่สามารถปรุงแต่งกลิ่น และรสชาติได้ เข้ามายึดครองตลาด เพราะความเป็นจริงนั้น เรื่องนี้ไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคได้ เพราะผู้บริโภคจะไม่ซื้อบุหรี่รสชาติจืดที่ไม่ใส่สารปรุงแต่ง แต่จะเปลี่ยนไปสูบบุหรี่อื่นแทน เท่ากับว่าเป็นการส่งเสริมการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายเพิ่ม
ทั้งนี้ มีความเห็นร่วมกันว่าทางภาครัฐยังควรพิจารณาอัตราภาษีที่ไม่ทำให้บุหรี่ถูกกฎหมายมีราคาแพงขึ้น เพื่อลดภาวะการเสียการแข่งขันตลาด การควบคุมบุหรี่ผิดกฎหมายอันมีผลต่ออนาคตของยาสูบไทยและการจัดเก็บรายได้ภาครัฐ โดยควรทบทวนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน รวมถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามความเป็นจริงในสังคม การบังคับใช้กฎหมายมาโดยตลอด เพื่อไม่นำไปสู่ความล่มสลายของระบบอุตสาหกรรมยาสูบไทย