'สรวงศ์' ปั้นโฮมสเตย์เข้าระบบ ชี้หากทำได้รายได้ท่องเที่ยวแตะ 3.5 ล้านล้านบาท เป็นเรื่องขนมๆ จ่อชง คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ เคาะเราเที่ยวด้วยกัน ดันไทยเที่ยวไทยโลว์ซีซั่นปี 2568
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมแก้ไขกฎหมายโรงแรมที่พัก เพื่อผลักดันโรงแรม โฮมสเตย์ เข้าระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้การกำกับดูแลของกรมการท่องเที่ยว เพื่อให้ได้รับสวัสดิการ และการดูแลจากหน่วยงานรัฐเวลาเกิดอะไรขึ้น เพราะยังมีโฮมสเตย์ โฮมลอดจ์ อีกจำนวนมาก ที่ไม่ยังไม่ได้อยู่ในระบบ หากดึงเข้ามาอยู่ในระบบได้ เป้าหมายรายได้รวมจากภาคการท่องเที่ยวจะเป็นเรื่องง่าย ขนมๆ ไปเลย
“จากที่เดินทางไปเกาะกูด จ.ตราด ปัญหาที่พบคือเรื่องของเอกสารสิทธิในการถือครองที่ดิน ทำให้โฮมสเตย์ โฮมลอดจ์ ยังไม่สามารถเข้ามาอยู่ในระบบโฮมสเตย์ภายใต้การกำกับดูแลของกรมการท่องเที่ยวได้ ถ้าทำให้โฮมสเตย์ที่มีอยู่ให้ถูกกฎหมายได้ มั่นใจว่าตัวเลขด้านจำนวนและรายได้จากการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นมาด้วย” นายสรวงศ์ กล่าว
ทั้งนี้จากการสอบถามชาวบ้านและผู้ประกอบการบนเกาะกูด ต่างสะท้อนเป็นเสียงเดียวกัน ว่าช่วงปลายเดือน พ.ค.-ก.ย. เกาะกูดเงียบเหงาไม่มีนักท่องเที่ยวเลย เนื่องจากเป็นนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น จึงอยากให้รัฐบาลเอากิจกรรมอีเวนต์ลงไปจัดในพื้นที่ เช่น งานวิ่งมาราธอนรอบเกาะ เพราะสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้คึกคักตลอดทั้งปี ปัจจุบันเกาะกูดยังบริสุทธิ์อยู่มาก คนบนเกาะยังห่วงแหนพื้นที่ ยังอยากให้มีการทำกิจกรรมที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยยังอนุรักษ์ความสวยงามของธรรมชาติ
“เพราะอย่างมีเจ็ตสกีเข้าไป เขาโวยวาย เขาไม่โอเค แหล่งท่องเที่ยวที่บริสุทธิ์แบบนี้ดี อะไรแบบนี้เราควรไปเที่ยว การไปเที่ยวแบบนี้ไม่แพงเลย อย่าไปคิดเยอะ ต้องกล้าที่จะใช้จ่าย” นายสรงศ์ กล่าว
ขณะที่ความคืบหน้าของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ได้คุยกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ไปแล้ว ในส่วนของวงเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ แต่ยังไม่บอก เพราะยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องไปดูกันต่อว่าจะทำกี่เฟส ขนาดโครงการควรทำเท่าไหร่ดี และชื่อโครงการควรใช้ชื่ออะไรดี โดยได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. นำโครงการเราเที่ยวด้วยกันทั้ง 5 เฟส เคยดำเนินการไปคุยกับกระทรวงการคลัง ทั้งนี้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนและเริ่มใช้สิทธิในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือโลว์ซีซั่นปี 2568 (เดือน มี.ค.-มิ.ย.)
อย่างไรก็ตาม จากที่คุยกับกระทรวงการคลัง รัฐอาจจะออกให้ 40% ประชาชนออกเอง 60% หรือประชาชนออก 50% และรัฐออกให้ 50% ซึ่งเป็นการบ้านที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะต้องคุยกันกับ ททท. ให้มีความมีชัดเจนก่อน แล้วคุยกับกระทรวงการคลัง แล้วค่อยเสนอเข้าสู่เข้าการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาต่อไป