ส่องทิศทางตลาดรถยนต์ ยอดขายมีโอกาสต่ำสุดในรอบ 15 ปี จับตาปัจจัยสำคัญ

ส่องทิศทางตลาดรถยนต์ไทย ยอดขายมีโอกาสต่ำสุดในรอบ 15 ปี จับตาตลาดในประเทศซึมยาว แข่งขันรุนแรง พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

Krungthai COMPASS วิเคราะสถานการณ์รถยนต์ ประเมินว่ายอดขายรถยนต์ไทยในระยะ 1-2 ปีนี้มีโอกาสต่ำสุดในรอบ 15 ปี

ตลาดรถยนต์ไทยอยู่ในภาวะหดตัวอย่างน่าใจหาย เห็นได้ชัดจากยอดขายรถยนต์ใน ก.ย. 2567 ที่ติดลบหนักถึง -37.1%YoY ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกัน ส่งผลให้ยอดขายสะสมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 มีจำนวนเพียง 0.44 ล้านคัน ลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 1 ใน 4 หรือ -25%YoY

สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นปัจจัยกดดันโดยตรงต่อการดำเนินงานของกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์เองตลอดจนธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันไม่ว่าจะเป็นธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ หรือธุรกิจเช่าซื้อยานยนต์

นอกจากนี้ ภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ปัญหาหนี้เสีย และคุณภาพของผู้กู้ที่เปราะบางต่อภาวะเศรษฐกิจ ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดจำหน่ายรถยนต์เช่นเดียวกัน ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยที่อยู่ในระดับสูงถึง 89.6% ของ GDP และลามกระทบต่อยอดการชำระหนี้ลดลง จนเกิดหนี้เสียจำนวนมาก

โดยข้อมูลจาก เครดิตบูโร พบว่า หนี้เสียภาคครัวเรือน ณ ส.ค. 2567 อยู่ที่ 1.18 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.3%YoY ส่วนใหญ่เป็นหนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ 2.6 แสนล้านบาท (+28.6%YoY) หรือราว 22% ของหนี้เสียครัวเรือนทั้งหมด และคาดว่าภาพรวมของหนี้เสียจะยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากรายได้ของกลุ่มลูกหนี้รายย่อยยังไม่มากพอ และบางส่วนรายได้ยังไม่กลับมาเท่าก่อนโควิด

จากประเด็นความเสี่ยงด้านภาวะเศรษฐกิจและเครดิตของผู้กู้ ส่งผลให้สถาบันการเงินเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ โดยข้อมูล Senior Loan Officer Survey ของ ธปท. ชี้ว่า Credit Standards ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 0 แสดงให้เห็นว่ามาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อนั้นมีความเข้มงวดขึ้น ขณะที่ ผู้ประกอบการบางรายปรับเพิ่มเงินดาวน์เช่าซื้อรถยนต์มากขึ้นเพื่อคัดกรองกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อจริงๆ

ภายใต้สถานการณ์ด้านภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนปัญหาหนี้ครัวเรือน ปัญหาหนี้เสีย และคุณภาพของผู้กู้ ทำให้ Krungthai COMPASS มีมุมมองต่อยอดขายรถยนต์ไทยในปี 2567-68 อาจอยู่ในระดับต่ำเพียงปีละ 0.6-0.61 ล้านคัน น้อยกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต (ปี 2564-66) ที่ 0.79 ล้านคัน อยู่เกือบ 25% และการขายรถยนต์ให้กลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 (ปี 2562) ที่ 1.0 ล้านคันดูเหมือนจะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 5 ปี

Krungthai COMPASS มีมุมมองต่อยอดขายรถยนต์ไทยในปี 2567-68 อาจอยู่ในระดับต่ำที่ปีละ 0.6-0.61 ล้านคัน ลดลงจากค่าเฉลี่ยในอดีต (ปี 2564-66) เกือบ 25% โดยมีแรงกดดันหลักจาก 1) กำลังซื้อของผู้บริโภคที่แผ่วลง บวกกับปัญหาขาดสภาพคล่องของบางกลุ่ม และ 2) ภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ปัญหาหนี้เสีย และคุณภาพของผู้กู้ยอดขายที่หดตัวรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอื่นๆ ที่อยู่ใน Supply Chain ของอุตสาหกรรมยานยนต์

ทั้งในแง่ของรายได้และอัตรากำไรของดีลเลอร์รถยนต์,ยอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ และอาจกระทบต่อเนื่องมายังในด้านรายได้จากดอกเบี้ยรับของผู้ประกอบการเช่าซื้อรถยนต์ ด้วยเช่นกัน และยังมีผลต่อการฟื้นตัวของและยอดผลิตรถยนต์ ซึ่งเบื้องต้นเราคาดว่าจะอยู่ที่ 1.62-1.66 ล้านคันในปี 2567-68 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังถึง 8-10%

ในระยะถัดไปยังต้องจับตา คือ ตลาดในประเทศที่มีแนวโน้มซึมยาวและการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึง และพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ทั้งความนิยมรถยนต์ไฮบริดที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยการตัดสินใจซื้อรถยนต์ที่มุ่งเน้นด้านคุณสมบัติ สมรรถนะ และราคา มากกว่าคุณภาพ ภาพลักษณ์ หรือแบรนด์

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 สถานีย่อยของคนไทย      ติดต่อเรา   SiteMap