ตลท. เปิดยุทธศาสตร์ 3 ปี เดินหน้า 3 โปรเจกต์ใหม่เพิ่มเสน่ห์หุ้นไทย

ตลท. เปิดยุทธศาสตร์ 3 ปี เดินหน้า 3 โปรเจกต์ใหม่ Jump+,Bond Connect,Carbon เพิ่มเสน่ห์หุ้นไทย

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์ 3 ปี (2568-2570) ของ ตลท.นับจากนี้จะใช้ 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ 1.มุ่งมั่นเพื่อโอกาสการเติบโต ในโครงการจั๊มพ์พลัสที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีกว่า 900 บริษัทมากยิ่งขึ้น จากที่ผ่านมามีบจ.ที่ข้ามจากตลาดเอ็มเอไอไปตลาดเซ็ต แล้ว 56-57 บริษัทเท่านั้นโดยเน้นกลุ่มเป้าหมายบริษัทที่ปรับปรุงด้านมูลค่าการซื้อขาย บริษัทที่มีปัญหาด้านผลการดำเนินงาน และผู้ที่ให้ข้อมูลของผู้ถือหุ้นแต่ยังไม่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริง ซึ่งเป็นโครงการที่มีการใช้แล้วใน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และมาเลเซีย พร้อมกับนำเอไอมาช่วยกำกับบจ.และแจ้งเตือนแก่ผู้ลงทุนทันท่วงที

ขณะที่ 2.ร่วมพัฒนาเพื่อความทั่วถึง ในแพลตฟอร์มบอนด์คอนเน็ก เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงตลาดทุนได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะพันธบัตรที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและมีค่อนข้างน้อย จึงต้องการขยายโอกาสให้นักลงทุนกลุ่มบุคคลเข้าถึงการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลได้ง่ายขึ้นและเข้ามากระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน และพัฒนาระบบชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ใหม่ เน้นการสื่อสารที่เข้าถึง ทั่วถึง สร้างความเข้าใจในประเด็นที่ผู้ลงทุนควรรู้แบบเข้าใจง่ายและทันการณ์ ผ่านช่องทางใหม่ๆ พร้อมเตือนประชาชนให้รู้เท่าทันมิจฉาชีพหลอกลงทุนในรูปแบบต่างๆ

สุดท้ายสรรสร้างคนและอนาคต ในโครงการคาร์บอน อีโค่ซิสเต็ม สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่โลว์คาร์บอนอีโคโนมี่ โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนพื่อรองรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตทั้งในตลาดภาคบังคับ และภาคสมัครใจ พัฒนาเครื่องมือในการคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์กร พร้อมสนับสนุนการสร้างหลักสูตรและจัดสอบผู้ทวนสอบเพื่อส่งเสริมการมุ่งสู่โลว์คาร์บอนอีโคโนมี่และคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 93 และพัฒนาระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้ทางการเงิน สร้างคนรุ่นใหม่ ประกอบด้วย ผู้ลงทุน ผู้ประกอบวิชาชีพ ภาคการศึกษา และอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน การลงทุน และเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัล โดยเฉพาะเอไอแก่พนักงาน เตรียมความพร้อมพัฒนาบุคลากรทุกระดับ ขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต

“จาก 3 โครงการดังกล่าวนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 68 เพื่อช่วยสะท้อนความคึกคัก ความน่าสนใจในตลาดทุนไทย รวมถึงสร้างเสน่ห์ให้น่าสนใจแก่นักลงทุนมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น บอนด์คอนเน็กที่จะสร้างโอกาสให้คนเข้าถึงหลักทรัพย์ปลอดภัย ช่วยดึงดูดนักลงทุนให้กลับมาได้เช่นกัน ส่วนในเรื่องคาร์บอนก็มองว่าเป็นกฎเกณฑ์ทั่วโลกแล้ว ซึ่งหากเราไม่เข้าไปช่วยเหลือมองว่าหลายบริษัทจะได้รับผลกระทบแน่”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 สถานีย่อยของคนไทย      ติดต่อเรา   SiteMap