"พาณิชย์" ติดตามสถานการณ์ราคาผลปาล์มอย่างใกล้ชิด หลังปรับลดการใช้พลังงานทดแทน จาก B7 เป็น B5
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนเกษตรกร ภาคเอกชน ภาครัฐ รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และกรมศุลกากร เพื่อประเมินความต้องการใช้น้ำมันปาล์ม ภายหลังกระทรวงพลังงานมีการปรับสัดส่วนการผสมน้ำมันดีเซลจาก บี7 เป็น บี5 ซึ่งลดการใช้น้ำมันปาล์มดิบ จากกลุ่มไบโอดีเซลลง นอกจากนี้ การใช้น้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคมีแนวโน้มลดลง จะส่งผลให้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศมีเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ การปรับสัดส่วนการผสมน้ำมันดีเซลดังกล่าว ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบลดลงเดือนละ 20,000 ตัน โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดการณ์ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันเดือน พ.ย. นี้ อยู่ที่ 1.026 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบที่อัตราสกัด 18% อยู่ที่ 0.185 ล้านตัน ขณะที่การส่งออกยังชะลอตัวจากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ปรับสูงขึ้นและการบริโภคในประเทศที่มีแนวโน้มปรับลดลง ส่งผลให้คาดว่า ปริมาณน้ำมันมันปาล์มดิบคงเหลือ ณ เดือน พ.ย. อยู่ที่ 0.237 ล้านตัน
ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบ อยู่ที่ 41.75 บาทต่อ กก. ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 42.13 บาท โดยมีปัจจัยสำคัญจากปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลก โดยเฉพาะมาเลเซียที่ลดลงต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ อยู่ที่ 38.82 บาทต่อ กก. จากสัปดาห์ก่อน 39.06 บาท และประเทศผู้นำเข้าจีนเริ่มชะลอการนำเข้าน้ำมันปาล์ม เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว การบริโภคน้ำมันปาล์มลดลง ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันในประเทศ มีแนวโน้มลดลงอยู่ที่ 7.55 บาท จากเดิม 7.70 บาท
ด้านการผลิต สศก. ได้คาดการณ์ว่าในเดือน ธ.ค. 67 ผลผลิตปาล์มน้ำมัน 1.007 ล้านตัน ใกล้เคียงกับเดือนพฤศจิกายน อยู่ในระดับต่ำที่สุดของปี แต่คาดว่าในปี 2568 ผลผลิตจะทยอยออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมกราคม อยู่ที่ 1.235 ล้านตัน กุมภาพันธ์ อยู่ที่ 1.395 ล้านตัน และมีนาคม อยู่ที่ 1.816 ล้านตัน จะส่งผลให้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
นายวิทยากร กล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯ เห็นพ้องกันว่า การดูดซับปริมาณน้ำมันดิบในภาคพลังงานและการส่งออก ยังคงเป็นเหตุสำคัญในการบริหารสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ อย่างไรก็ตาม จะได้ติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิดทุกสัปดาห์ เพื่อพิจารณาแนวทาง และข้อเสนอการบริหารจัดการที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคอย่างเหมาะสมต่อไป
นอกจากนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ กำกับดูแลการรับซื้อผลปาล์มของเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรม โดยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ต้องคัดแยกทะลายปาล์มดิบหรือไม่ได้คุณภาพอย่างเคร่งครัด รวมทั้งพี่น้องเกษตรกรต้องตัดปาล์มสุก เพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ดี หากพบการกระทำความผิด หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการรับซื้อผลผลิต สามารถแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569