เช็กสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกรปี 67/68 จ่ายเงินช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด 10,000 บาท เงื่อนไข รายละเอียดเป็นอย่างไร เริ่มจ่ายเมื่อไหร่วันไหน
อัปเดตการจ่ายเงินชาวนา เงินเยียวยาเกษตรกรปี 67/68 เงินไร่ละ 1,000 บาท หลังคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เห็นชอบแล้ว ซึ่งจะดำเนินการจ่ายเงินตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่อไป
เงินเยียวยาเกษตรกร เงินช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เป็นโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยช่วยเงินไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน หรือสูงสุด 10,000 บาทต่อครัวเรือน จำนวน 4.61 ล้านครัวเรือน
สรุปเงื่อนไขจ่ายเงินช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเยียวยาเกษตรกรปี 67/68
จ่ายเงินช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาทจ่ายไม่เกิน 10 ไร่จ่ายสูงสุด 10,000 บาทเงินเยียวยาเกษตรกร จ่ายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.เกษตรกรผู้มีสิทธิ จำนวน 4.61 ล้านครัวเรือนการโอนเงินแบ่งเป็นรอบๆเกษตรกรต้องเป็นผู้ปลูกข้าว ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรระยะเวลาดำเนินการ และจ่ายเงิน ทยอยจ่ายไปจนถึงภายใน 30 กันยายน 2568
วิธีเช็กตรวจสอบสถานะทะเบียนเกษตรกร
1. เข้าไปที่เว็บไซต์ทะเบียนเกษตรกรออนไลน์ e-Form คลิก https://efarmer.doae.go.th/checkFarmer
2. กรอกหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
3. กรอกรหัสหลังบัตรประชาชน
4. หมายเลขหลังบัตรประจำตัวประชาชน 12 หลัก (พิมพ์ติดกันไม่ต้องใส่ “-“) เช่น JT1234567890 หลักที่ 1-2 เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ และหลักที่ 3-12 เป็นตัวเลข
5. คลิกตรวจสอบ
ช่องทางเช็กเงินเกษตรกรไร่ละ 1,000 ปี 67/68
แอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมงเว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.comสมัครใช้บริการ BAAC Connect จะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. มีความช่วยเหลือให้เกษตรกรเพิ่มเติม ดังนี้
สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ป้องกันผลผลิตข้าวเปลือกล้นตลาด และส่งเสริมให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางจนกว่าจะถึงช่วงที่ขายได้ราคาดี รัฐบาลชำระดอกเบี้ยแทนเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร โดยเกษตรกรกู้ได้รายละไม่เกิน 300,000 บาท สหกรณ์การเกษตรและชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรแห่งละไม่เกิน 20 ล้านบาท และวิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท ระยะเวลาจ่ายสินเชื่อตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30กันยายน 2568สนับสนุนค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกให้อีก 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรเก็บข้าวเองได้รับ 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรฝากข้าวกับสถาบันเกษตรกร เกษตรกรจะได้รับ 500 บาทต่อตัน และสถาบันฯ จะได้รับ 1,000บาทต่อตัน ระยะเวลาจัดทำสัญญา ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 28กุมภาพันธ์ 2568
ที่มา : ธ.ก.ส.,ทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงเกษตรฯ