‘ดิษทัต’ส่งไม้ต่อ’ปีกทอง’ดันโออาร์เป็นพลังงานทุกรูปแบบ ขอให้รักองค์กร ต้านคนทึ้งประโยชน์

“ดิษทัต” ซีอีโอโออาร์ เปิดใจก่อนโบกมือลา ส่งต่อ “ปีกทอง” ชี้ปี68 ปีแห่งการลงทุนโออาร์ หลังรื้อทิ้งธุรกิจขาดทุนออกหมด ย้ำคนโออาร์ ต้องรักองค์กร ต้านทานคนทึ้งหาผลประโยชน์ ต่อไปต้องไม่ใช่แค่ธุรกิจน้ำมัน แต่คือพลังงานทุกรูปแบบ

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ เปิดเผยว่า  ปี 68 จะเป็นปีแห่งการลงทุนของของโออาร์ จะเห็นการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ในธุรกิจไลฟ์ สไตล์  ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการ (เอ็มแอนด์เอ) อยู่ประมาณ 2-3 ราย เรื่องนี้ต้องฝากให้ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ ที่จะเริ่มงานวันที่ 12 ธ.ค. เป็นผู้สานต่อ  ซึ่งปีนี้โออาร์ได้ถอนการลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีกำไรออกไปแล้ว 5 – 6 ธุรกิจ ช่วยหนุนให้กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (อิบิด้า) ของธุรกิจไลฟ์ สไตล์  ในปีหน้าปรับเพิ่มขึ้นจาก 27% เป็น 30% และในอนาคตจะเพิ่มเป็น 50% เพื่อสนับหนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของกลุ่มโออาร์ ซึ่งต่อไปโออาร์ จะไม่ใช่แค่ธุรกิจน้ำมัน แต่คือพลังงานทุกรูปแบบ

“ งบลงทุนของโออาร์ ในปี 68 ต้องรอนำเสนอที่ประชุมบอร์ดโออาร์ วันที่ 11 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะเห็นภาพแผนการลงทุนระยะ 5 ปีที่ชัดเจนขึ้น ส่วนการทบทวนแผนธุรกิจที่ผ่านมา ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ถือเป็นพอร์ตโฟลิโอ ที่ถูกตัดออกไปมากที่สุด เนื่องจากเราจะดูว่า ธุรกิจไหนที่ไม่ทำกำไรก็ต้องตัดออกหรือถอนตัวออกมา โออาร์ได้ยกเลิกการทำธุรกิจไปแล้ว 5-6 ตัว เช่น ร้านเท็กซัส ชิคเก้น ที่เลิกกิจการไปแล้ว,บริษัท อิ่มทรัพย์โกลบอล คูซีน ผู้ดำเนินการร้านอาหารญี่ปุ่นโคเอ็น,ร้านคาเฟ่ อเมซอนที่จีนในนามโออาร์ ไชน่า,บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส ขายหุ้นออกไป แต่ก็มีกำไร,แอปพลิเคชัน FIXX ส่วนธุรกิจ ออร์บิท ดิจิทัล ขณะนี้อยู่ระหว่างทบทวนรูปแบบธุรกิจอยู่ เพื่อสร้างให้มีมูลค่าแล้วนำเข้าตลาดหุ้น”

ส่วนการเปิดร้าน found&found ซึ่งเป็นธุรกิจแบรนด์เฮลท์แอนด์บิวตี้รีเทลรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพและความงาม เชื่อมั่นว่า จะเป็นธุรกิจที่สร้างการเติบโตให้กับโออาร์ในอนาคต โดยวางแผนขยายเป็น 10 สาขาในปี 68 และในช่วงไตรมาส1 ปี 68 คาดว่าจะเห็นภาพการเติบโตได้ ผ่านการลงทุนร่วมกับพันธมิตรรายใหม่ ที่จะเกิดผลลัพธ์การลงทุนได้ชัดเจน

ด้านการลงทุนในธุรกิจ Global แม้ว่าจะสร้างกำไรได้ปีละประมาณ 600-700 ล้านบาท แต่เชื่อมั่นว่าในอนาคตจะสามารถสร้างการเติบโตได้สูงกว่า ดังนั้น ในปีหน้า คาดว่า จะเห็นการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้ง Marine Terminal และสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ที่ถนนหุนเซนบูเลอวาร์ด กัมพูชา ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของOR นอกจากนี้ยังขยายโอกาสทางธุรกิจสู่เวียดนาม ผ่านการสร้างฐานธุรกิจ LPG แห่งใหม่

“อยากให้พนักงานโออาร์ รักองค์กรเยอะๆ คนโออาร์ ต้องเข้มแข็ง เพราะเราเป็นแหล่งผลประโยชน์ เราต้องเป็นคนดีของประเทศ เราต้องไม่โกง ไม่คอร์รัปชั่น อนาคตโออาร์จะเจริญรุ่งเรืองแน่นอน ตอนนี้ยังเหมือนเครื่องบินกำลังเทค ออฟ ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาโออาร์ มีการเปลี่ยนแปลงมาก ผมวางรากฐานพร้อมส่งไม่ต่อให้ซีอีโอคนใหม่ จะเอานโยบายทั้งหมดไปใช้หรือบางนโยบายก็ได้”

นอกจากนี้ยังได้พัฒนาธุรกิจรีเทล มิกซ์ ยูส รูปแบบใหม่ผ่านพีทีที สเตชั่น แฟคชิพ ที่มีธุรกิจไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยด์) ถึง 80% และต่อยอดสู่โออาร์ สเปซ ที่เน้นธุรกิจนอนอ ออยด์ 100% รองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับความ สำเร็จในธุรกิจไลฟ์สไตล์ โดยคาร์เฟ่ อเมซอน ทำยอดขายกว่า 1 ล้านแก้ว ต่อวัน ต่อไปโออาร์จะผลิตแก้วเองเพื่อลดต้นทุนคาดว่า โรงงานจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 68

“เราทำทั้งระบบต้นน้ำยันปลายน้ำ เพราะความต้องการกาแฟในไทยอยู่ที่ 65,000 ตันต่อปี แต่มีปริมาณผลิตในประเทศเพียง 20,000 กว่าตัน ที่เหลือนำเข้ากว่า 60% จึงต้องรณรงค์ให้เกษตรกรปลูกกาแฟโดยโออาร์จะเข้าไปรับซื้อเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง”

 

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 สถานีย่อยของคนไทย      ติดต่อเรา   SiteMap