เปิด 7 เทรนด์ความงามปี68 ที่ฮอตฮิต ชี้ สกินแคร์อย่างเดียวเอาไม่อยู่ สวยด้วยแพทย์ยังมาแรง
เทรนด์สกินแคร์ในช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นตลาดที่ยังเติบโตได้ดี เพราะค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แม้ที่ผ่านมาจะมีกระแสของครีมฟื้นฟูผิวและอุปกรณ์ดูแลผิวมาแรง แต่โดยรวมแล้วยังไม่สั่นสะเทือนวงการความงามมากนัก
ส่วนในปี 2568 นี้การดูแลผิวหน้า หรือความสวยความงามที่ยังฮิต มีดังนี้
1. ความโปร่งใสเรื่องศัลยกรรม โดยปีนี้จะเป็นปีที่ทุกคนเปิดเผยเรื่องศัลยกรรมมากขึ้น ผู้บริโภคจะเข้าใจแล้วว่าลำพังสกินแคร์อย่างเดียวไม่อาจเปลี่ยนแปลงใบหน้าได้ทุกมิติ จำเป็นต้องพึ่งพาการรักษาแบบมืออาชีพหลากหลายวิธี และการพูดคุยเรื่องความงามไม่ใช่เรื่องต้องห้ามอีกต่อไป
2. การสะสมคอลลาเจนจะกลายเป็นเทรนด์หลักในวงการความงาม
3. สกินแคร์จาก DNA แซลมอนกำลังเป็นที่จับตามองในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
4. การยกระดับการดูแลผิวกายจะได้รับความสนใจมากขึ้นโดยเฉพาะจากแบรนด์ใหม่ๆ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์สวยงาม มีส่วนผสมจากธรรมชาติ และกลิ่นหอม ที่ช่วยให้การอาบน้ำเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากขึ้น
5. ผลิตภัณฑ์กันแดดจะถูกยกระดับ โดยสูตรกันแดดจะพัฒนาให้เนื้อสัมผัสบางเบา ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
6. นวัตกรรม Exosome หรืออนุภาคนาโนที่ปล่อยออกมาจากเซลล์ในร่างกายมนุษย์ ยังคงเป็นที่ถกเถียง แต่มองว่ากำลังได้รับความสนใจอย่างมากในวงการความงาม แม้จะยังไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA
7. จะเห็นวงการความงามนำ AI มาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการวิเคราะห์สภาพผิวแบบเฉพาะบุคคลช่วยวิเคราะห์สภาพผิวได้แม่นยำมากขึ้น เพื่อช่วยพัฒนาสูตรสกินแคร์ที่ตอบโจทย์ผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงการติดตามและปรับปรุงผลลัพธ์ของผิวด้วย
ขณะเดียวกัน นายฐกรฐ์ กาญจนากร ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอวา ฟาร์มา จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงาม บอกว่า อุตสาหกรรมความงามด้วยแพทย์ของไทยยังเติบโตสูงสุดติดอันดับของอุตสาหกรรมดาวรุ่ง และเชื่อว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องขึ้นทุกๆปี เนื่องจากคนไทยให้ความสำคัญกับการดูแลความสวยความงามของตัวเองมากขึ้น โดยภาพรวมตลาดความงามด้วยแพทย์ของไทยในขณะนี้ กลุ่มที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น ในหลายปีที่ผ่านมา คือ กลุ่มฟิลเลอร์ ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเติบโตสูงกว่ากลุ่มท็อกซินถึงสองเท่าตัว ส่วนตลาดการชะลอวัยยังคงมีอัตราการเติบโตปกติ
ล่าสุดจึงได้เปิดตัวฟิลเลอร์ภายใต้แบรนด์ ELASTYในตลาดไทยหลังจากได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศเกาหลีและอีกหลายประเทศทั่วโลกจากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำอย่าง DongBang Medical ด้วยเทคโนโลยี P-NET และได้รับการรับรองจากยุโรป และ KFDA ในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับตลาดรวมเสริมความงามปีนี้ที่โตต่อเนื่อง จากปี67 มีมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงถึง 5,000-8,000 ล้านบาท