เลขาฯสศช.ชี้สาเหตุจีดีพีไม่ถึง 3% มั่นใจเศรษฐกิจไทยมั่นคงมีภูมิต้านทาน

เลขาฯสภาพัฒน์ ชี้จีดีพีไทยปี 68 โตไม่ถึง 3% ตามเป้าหมายรัฐบาล เหตุความเสี่ยง-ผันผวนสูง มั่นใจเศรษฐกิจไทยมั่นคง มีภูมิต้านทาน รองรับปัญหาได้

วันที่ 19 ก.พ. นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยในงานสัมมนา TRUST THAILAND เชื่อมั่นประเทศไทย จัดโดยเครือมติชน ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจปี 68 คาดว่าจะขยายตัว 2.8% ไม่ถึง 3% เหมือนกับเป้าหมายของรัฐบาล เพราะมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังไทยจะมีความผันผวนและความเสี่ยงสูง จากปัญหาสงครามการค้าสหรัฐกับประเทศคู่ค้า ทำให้ต้องเป็นเรื่องติดตามต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยยังมั่นคงเพียงพอ มีภูมิต้านทาน สามารถรองรับปัญหาและความผันผวนในครึ่งปีหลังได้ระดับหนึ่ง โดยต้องติดตามมาตรการต่างๆที่จะมากระตุ้นการลงทุน นำอุตสาหกรรมใหม่เข้ามา ทำให้การปรับเปลี่ยนไปสู่อุตสาหกรรมชั้นสูง และสนับสนุนการท่องเท่ยว รวมทั้งภาครัฐที่จะต้องลดรายจ่ายประจำ เพิ่มเงินลงทุนมากขึ้น

ขณะที่ ความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐ โดยหน่วยงานภาครัฐและกระทรวงต่างๆของไทยเตรียมการเจรจา เพราะมองว่าไทยเป็นเป้าหมายของสหรัฐจากการที่ไทยเกินดุลการค้า 48,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 67 ติดอันดับ 10-11 เป็นเป้าหมายสหรัฐให้ออกมาตรการและให้ไทยเจรจา ทำให้ต้องเตรียมพร้อม และรัฐบาลเจรจาให้ดีที่สุดเพื่อลดผลกระทบให้ไทย ถ้าทำได้และมีมาตรการอื่นๆ อาจทำให้จีดีพีขยายตัวดีกว่าที่ประมาณการไว้ได้

นายดนุชา กล่าวว่า ในช่วงถัดไป มี 5 เรื่อง ที่รัฐบาลเตรียมการเอาไว้ คือ 1.เตรียมรับมือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยายการค้าของประเทศคู่ค้า 2.การเร่งรัดส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนให้กลับมาขยายตัว คาดว่าจะมีเงินเพิ่มเข้ามาในระบบบเพิ่ม 100,000 บาท จากปี 67 3.การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อให้เงินรายจ่ายภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว 4.สร้างการตระหนักรู้ถึงมาตรการความช่วยเหลือภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนและธุรกิจ และ 5.การขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

“เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ดัชนีภาคการผลิต การใช้จ่ายขยายตัวดีขึ้นทุกตัว โดยเฉพาะการลงทุนรวมขยายตัว 5.1% แม้การลงทุนภาคเอกชน หดตัว 2.1% ทำให้จีดีพีปี 67 เติบโต 2.5% และยังเจอข้อจำกัดงบประมาณล่าช้า รวมทั้งเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน และปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ทำให้มีการแก้หนี้ขึ้นมา”

อย่างไรก็ตามการลงทุนไทยจากต่างชาติมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จากตัวเลข 3 ปีที่ผ่านมา มีอุตสาหกรรมใหม่ใช้เทคโนโลยีสูง เห็นว่า อุตสาหกรรมไทยอยู่ช่วงการเปลี่ยนผ่าน ต้องใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น เอไอ ซอฟต์แวร์ การเงินสมัยใหม่เสริมในอุตสาหกรรมเดิม ซึ่งที่ผ่านมาไทยมีข้อจำกัด แต่เชื่อว่าจะดีขึ้น 1-2 ปีข้างหน้า จากการไปสู่อุตสหกรรมใหม่

นายดนุชา กล่าวว่า เครื่องยนต์สำคัญเศรษฐกิจไทยปีนี้ เป็นเรื่องการลงทุนภาครัฐ ท่องเที่ยวและการส่งออก โดยมั่นใจศักยภาพเศรษฐกิจไทยมีความมั่นคงเพียงพอต้านทานความผันผวนที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ โดยเฉพาะความผันผวนจากนโยบายของสหรัฐ เชื่อว่าเศรษฐกิจมีภูมิคุ้มกันเพียงพอ และต้องมีการพูดคุยเจรจา โดยสศช.และ ธปท.ทำศึกษารูปแบบแนวทาง เป็นความเห็นให้รัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลดำเนินการ

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 สถานีย่อยของคนไทย      ติดต่อเรา   SiteMap