คลังสวน คิง เพาเวอร์ ฟังไม่ขึ้น อ้างปิดดิวตี้ฟรีขาเข้า-ยกเลิกภาษีไวน์ ชี้เอกชนยินดีปิดขาเข้าเอง
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ได้ส่งหนังสือถึงบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เพื่อขอหารือแนวทางการยกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานหลัก 5 แห่งนั้น เรื่องดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง โดย คิง เพาเวอร์ ต้องเข้าไปเจรจากับ ทอท. ในฐานะคู่สัญญาโดยตรง
“การเจรจาระหว่าง คิง เพาเวอร์ และ ทอท. ในวันนี้ เป็นการเจรจาในฐานะคู่สัญญาโดยตรง ซึ่งกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นสูงสุดของ ทอท. ไม่ได้ส่งผู้แทนเข้าไปเจรจาด้วย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นกรณีที่เกิดขึ้นระหว่างคู่สัญญา”
ส่วนกรณีที่ คิง เพาเวอร์ ให้เหตุผลถึงการขอยกเลิกสัญญาโดยอ้างเรื่องคลังไปยกเลิกดิวตี้ ฟรีนั้น ในประเด็นดังกล่าวก่อนดำเนินการ กระทรวงการคลังระวังปัญหานี้ไว้แล้วตั้งแต่แรก ขณะนั้นได้ดำเนินการเนื่องจาก เอกชนยินดีให้ความร่วมมือ และจะมีการประเมินผลอีกครั้ง ดังนั้นสัญญาไม่ได้ยกเลิก แต่เอกชนให้ความร่วมมือหยุดขายชั่วคราว ขณะที่มีการอ้างเรื่องลดภาษีไวน์นั้นมองว่าก็ฟังไม่ขึ้น เพราะหากภาษีถูกลง ทำให้ราคาไวน์ถูกลง คิง เพาเวอร์ ควรจะขายได้มากขึ้น ถือเป็นประโยชน์กับ คิง เพาเวอร์ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (คิง เพาเวอร์) ได้ส่งหนังสือถึง ทอท. เพื่อขอหารือแนวทางการยกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานหลัก 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ,ท่าอากาศยานดอนเมือง,ท่าอากาศยานภูเก็ต,ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่
ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายประการ อาทิ การหยุดดำเนินการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าจากนโยบายรัฐ การลดภาษีสินค้าไวน์ที่กระทบต่อยอดขายในร้านดิวตี้ฟรี การคืนพื้นที่บางส่วนของ ทอท. รวมถึงการขาดมาตรการเชิงรุกของภาครัฐในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีน
นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาวะสงครามระหว่างประเทศ และการซะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามสัญญา และต้องเผชิญภาวะขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่า ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นเหตุสุดพิสัย ที่ไม่เกิดจากการกระทำหรือความผิดของบริษัท