เปิดโครงการ กระตุ้นเศรษฐกิจลอตแรก 1.15 แสนล้านบาท ทุ่มงบโครงการน้ำ คมนาคมมากสุด 70% หนุนจีดีพีโต 0.5-0.6%
โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจลอตแรก ได้ผ่านที่ประชุมของคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) เมื่อวันที่18มิ.ย. โดยเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญที่จะต้องเร่งรัดการลงทุน วงเงินรวมทั้งสิ้น1.15แสนล้านบาท จากวงเงินงบกระตุ้นเศรษฐกิจ1.57แสนล้านบาท
โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มีความสำคัญที่จะต้องเร่งรัดการลงทุน ประกอบด้วย โครงการน้ำและโครงการด้านคมนาคม 70% ส่วนอีก 10% เป็นโครงการท่องเที่ยว และอีก 20% เป็นโครงการเกี่ยวกับการศึกษา และอื่นๆ ซึ่งเป็นการกลั่นกรองมาจากหน่วยงานต่างๆ ที่ขอใช้งบเข้ามากว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งในสัปดาห์หน้า (24มิ.ย.2568)จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
ส่วนอีก40,000ล้านบาท เป็นงบประมาณที่เตรียมจัดสรรให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยเบื้องต้นคณะอนุกลั่นกรองฯ ได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว มียอดโครงการที่ขอใช้งบประมาณมารวมกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีการเรียกหน่วยงานมาหารือรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อพิจารณาโครงการ ซึ่งยังมีโครงการที่ซ้ำซ้อน และไม่สอดคล้องวัตถุประสงค์
สำหรับงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจลอตแรก วงเงินรวม1.15แสนล้านบาท จากวงเงินงบกระตุ้นเศรษฐกิจ1.57แสนล้านบาท ประด้วยโครงการต่างๆ ดังนี้
1.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน85,000ล้านบาท คิดเป็น73.7%แบ่งเป็นโครงการด้านน้ำและคมนาคม ดังนี้
โครงการน้ำ39,136ล้านบาท คิดเป็น33.9%ได้โครงการพัฒนาน้ำอุปโภคบริโภค10,292ล้านบาท คิดเป็น8.9%โครงการเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำเดิมและพัฒนาระบบกระจายน้ำ17,021ล้านบาท คิดเป็น14.8%โครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝน8,529ล้านบาท คิดเป็น7.4%โครงการพัฒนาพื้นที่หน่วงน้ำและการป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมือง2,981ล้านบาท คิดเป็น2.6%โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรน้ำ312ล้านบาท คิดเป็น0.3%โครงการคมนาคม45,864ล้านบาท คิดเป็น39.8%
2.ด้านการท่องเที่ยว10,053ล้านบาท คิดเป็น8.7%
3.ด้านการส่งออก/ผลิตภาพ11,122ล้านบาท คิดเป็น9.6%
โครงการการเกษตร160ล้านบาท คิดเป็น0.1%โครงการด้านแรงงาน10,000ล้านบาท คิดเป็น8.7%โครงการดิจิทัล962ล้านบาท คิดเป็น0.8%
4.ด้านเศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ9,201ล้านบาท คิดเป็น8%
กองทุนหมู่บ้าน 4,000 ล้านบาท คิดเป็น 3.5%การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน 1,560 ล้านบาท คิดเป็น 1.3 %ทุนมนุษย์ด้านการศึกษา 3,641 ล้านบาท คิดเป็น 3.2%
ทั้งนี้ โครงการที่ผ่านการพิจารณาจัดสรรงบประมาณของคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องมีการกระจายการลงทุนครอบคลุมทั่วประเทศ ทุกจังหวัด และทุกอำเภอ โดยเรียงลำดับจากความยากจนหรือจังหวัดที่มีสัดส่วนรายได้ต่อหัวต่ำจะได้รับการจัดสรรงบประมาณโครงการเข้าไปดูแลมากสุด และจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวสูงจะได้รับการจัดสรรงบประมาณลดลั่นลงมาตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม หากสามารถดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงินทั้งหมด 1.57 แสนล้านบาท คาดว่าจะส่งผลให้จีดีพีขยายตัวขึ้น 0.5-0.6% แต่ในกรณีเลวร้ายที่สุดหากมีเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจเพียง 1.4 แสนล้านบาท คาดว่าจะส่งผลให้จีดีพีขยายตัวขึ้น 0.4-0.5%เท่านั้น