หอการค้า จี้เร่งจบปัญหาการเมือง ชี้ยิ่งซ้ำเศรษฐกิจยิ่งสาหัสจากศึกสงครามอยู่แล้ว แจงหากนายกฯ ลาออก ครม.หายอาจทำเศรษฐกิจสะดุด แต่หากยุบสภา ครม.รักษาการยังทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อได้
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากกรณีปัญหาการเมืองในไทยว่า โดยส่วนตัวมองว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างมีความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากก่อนเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ประเทศไทยก็อยู่ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจอยู่แล้ว ทั้งที่เกิดจากปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ กรณีสหรัฐขึ้นภาษีตอบโต้ทางการค้า และยังมีปัญหาเรื่องการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ซึ่งแต่ละเรื่องก็ยังไม่จบ ไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ ขณะที่การท่องเที่ยวของไทยก็ยังไม่ดีจากนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป นอกจากนี้งบประมาณของภาครัฐก็ไม่เพียงพอทำให้ต้องก่อหนี้สาธารณะเพิ่มอีก 1.5 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดทุนก็ยังไม่ดี
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงรอบด้านขณะนี้ ทำให้ความเชื่อมั่นต่างๆ หายไป ซึ่งปัญหาที่สำคัญที่สุดขณะนี้คือภาคเอกชนไม่รู้ทิศทางการเมือง การบริหารประเทศว่าจะไปในทิศทางใด ดังนั้นภาคการเมืองจะต้องรีบจัดการปัญหาให้จบเร็วที่สุด เพื่อให้มีความชัดเจนว่า การเมืองไทยหลังจากนี้จะออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งจะต้องเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในสังคมประเทศไทยและสังคมโลกเพื่อให้รัฐบาลสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปได้
“หากรัฐบาลแก้ปัญหาด้วยการให้นายกรัฐมนตรีลาออก ครม.ทั้งชุดก็จะถูกยุบไปจะทำให้เกิดปัญหาความชะงักงันในการบริหารบ้านเมือง การเจรจาภาษีกับสหรัฐ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ เพราะการจัดตั้ง ครม.ใหม่ อาจต้องใช้เวลาอาจทำให้ไทยจบการเจรจาไม่ทันเส้นตายในวันที่ 8 ก.ค. นี้ ซึ่งจะทำให้การค้าการส่งออกไทยมีปัญหา และหากรัฐบาลเลือกวิธียุบสภาอย่างน้อยก็ยังมีรักษาการนายกรัฐมนตรีและครม. ทำให้รัฐบาลรักษาการยังสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปอย่างต่อเนื่องราว 2-3 เดือน”
“ทั้งนี้เศรษฐกิจประเทศจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ทั้งเรื่องการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ การผลักดันการส่งออกและการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา ถ้าการเมืองที่ไม่ชัดเจน ผมคงไม่ไปวิเคราะห์ว่ารัฐบาลควรจะยุบสภา หรือให้นายกฯ ลาออก เพราะหอการค้าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่รัฐบาลจะต้องตัดสินใจให้จบโดยเร็ว และต้องเป็นทางเลือกที่ทุกภาคส่วนยอมรับได้”