อดีต รมว.คลัง "สุชาติ" ย้ำช่วงนี้จะให้เศรษฐกิจเติบโตสูงขึ้น ต้องปรับค่าเงินบาทลดลง ให้แข่งขันได้ อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือทางนโยบายของรัฐบาล ไม่ควรปล่อยให้ขึ้นๆ ลงๆ ตามนักเก็งกำไร
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 68 ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง กล่าวถึงทิศทางของค่าเงินบาทที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ว่า
1.หากรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็ว รัฐบาลต้องปรับลดค่าเงินบาทลง เพื่อให้การส่งออกและท่องเที่ยว ได้ปริมาณเงินบาทมากขึ้น กำไรมากขึ้น GDP ก็จะเพิ่มขึ้นได้มาก (สมัย พล.อ.เปรม เศรษฐกิจไม่เจริญเติบโต ท่านก็ให้ ดร.วีรพงษ์ ไปปรับลดค่าเงินบาทถึง 2 ครั้ง) อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือทางนโยบายของรัฐบาล เราไม่ควรปล่อยให้ค่าเงินบาทขึ้นๆ ลงๆ ตามการเก็งกำไรในตลาดทุน
2.เมื่อเอกชนได้กำไรมากขึ้น เขาจะไปเพิ่มเทคโนโลยีเอง ตอนนี้แม้รัฐบาลจะไปพูดเรื่องเทคโนโลยีล้าสมัย สินค้าเก่าไม่ทันสมัย ทำให้ประเทศไม่เจริญ ภาคเอกชนก็จะไม่ไปปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ เพราะไม่มีกำไร สินค้าที่เขาผลิตในรูปเงินบาทก็แพงเกินไป เพราะค่าเงินบาทแข็งเกินไป
3.การใช้เงินงบประมาณ 157,000 ล้านบาท ไม่สามารถฟื้น GDP (18.5 ล้านๆบาท) ได้มากนัก เพราะเงินงบประมาณนี้ ไปเก็บภาษีมา หรือไม่ก็ไปกู้มา ซึ่งไปลดการใช้จ่ายของประชาชน และลดการลงทุนของเอกชน เป็น Crowding out effect หักลบกันไป
4.การปรับลดค่าเงินบาทอาจทำให้บริษัทนำเข้า,บริษัทสัมปทาน มีต้นทุนในรูปเงินบาทสูงขึ้นในระยะสั้น เพราะต้องใช้เงินบาทมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้านำเข้า แต่ในระยะกลาง เศรษฐกิจไทยจะกลับมาเติบโตสูงขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้น ทำให้บริษัทนำเข้าและบริษัทสัมปทานเติบโตเร็วขึ้นกว่า ปล่อยให้ประเทศไทยไม่เจริญเติบโตแบบปัจจุบัน