พลังงานแจงถามโออาร์แล้ว ยังไม่กระทบ หันไปรับน้ำมันสิงคโปร์มาใส่ปั๊มขายแทน ย้ำไทยไม่ได้ยกเลิก แต่กัมพูชายกเลิกเอง
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยถึงกรณีประเทศกัมพูชา ประกาศงดซื้อน้ำมันจากไทยว่า ปัจจุบันผู้ค้าน้ำมันจากค่าย บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) หรือโออาร์ ได้แจ้งว่า ยังสามารถรับมือได้ และยังไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงแต่อย่างใด ซึ่งโออาร์ มีปั๊มน้ำมันในกัมพูชาประมาณ 186 แห่ง โดยไทยส่งออกน้ำมันให้กัมพูชาประมาณ 6 ล้านลิตรต่อวัน คิดเป็น 5% ของความต้องการใช้น้ำมันในไทยทั้งสิ้น 130 ล้านลิตรต่อวัน
“ได้สอบถามข้อมูลโออาร์ พบว่าทางปั๊มน้ำมันโออาร์ ในกัมพูชายังไม่มีปัญหา แต่หันไปรับน้ำมันจากทางประเทศสิงคโปร์ เพื่อมาจำหน่ายแทน โดยขอย้ำว่าไทยไม่ได้ปฏิเสธการขายน้ำมันให้กัมพูชา แต่ทางกัมพูชาเป็นผู้ยกเลิกการซื้อน้ำมันจากไทยเอง ดังนั้นน้ำมันส่วนที่เหลือจากขายให้กัมพูชา ทางไทยจะหันไปขายในตลาดอื่นซึ่งยังมีความต้องการแทน ซึ่งยังไม่ได้กระทบต่อไทยมากนัก แต่กรมฯ ก็ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป”
ส่วนกรณีสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางจากการสู้รบระหว่างอิหร่านและอิสราเอล เพื่อเตรียมรับมือผลกระทบด้านปริมาณน้ำมันที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทยนั้น กรมฯ ได้ติดตามใกล้ชิด มั่นใจว่าใน 60 วันนับจากนี้ ไทยยังมีน้ำมันเพียงพอต่อความต้องการใช้แน่นอน เนื่องจากไทยมีสำรองน้ำมันดิบตามกฎหมายอยู่ 21.5 วัน,น้ำมันสำเร็จรูปอีก 3.5 วัน นอกจากนี้ยังมีน้ำมันที่ภาคเอกชนสำรองเกินจากความต้องการขายอีก 14 วัน และน้ำมันที่อยู่ในเรือซึ่งกำลังเดินทางมายังประเทศไทยซึ่งใช้ได้อีก 21 วัน
พร้อมกันนี้ไทยยังมีความพร้อมด้านก๊าซธรรมชาติ ซึ่งนอกจากก๊าซฯ ในอ่าวไทยแล้วยังมีก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากประเทศกาตาร์อีก 2 ลำเรือ ปริมาณ 7 หมื่นตันต่อลำ ที่จะเข้ามายังประเทศไทย ดังนั้นในเดือน ก.ค. 2568 นี้ กรมฯ มีความมั่นใจว่าพลังงานในไทยยังมีเพียงพอรองรับความต้องการใช้ของประชาชน
อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตเกิดการสู้รบที่รุนแรงมากขึ้น รวมถึงมีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ที่ใช้เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันทางเรือมายังเอเชีย อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันในไทย หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น ไทยก็มีมาตรการรองรับไว้แล้ว เช่น มาตรการประหยัดน้ำมัน รวมถึงการทำงานที่บ้าน จะทำให้เกิดการประหยัดน้ำมันในประเทศได้มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค. สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้แถลงแนะนำฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นบุตรชาย ให้พิจารณาออกมาตรการ “ห้ามซื้อสินค้าทุกชนิดจากประเทศไทย” เพื่อตอบโต้ที่ไทยชอบข่มขู่กัมพูชามาโดยตลอด นอกจากนี้ยังประกาศสนับสนุนให้สถานีบริการน้ำมันพีทีที ทุกแห่งในกัมพูชา ยุติการสั่งซื้อเชื้อเพลิงจากประเทศไทย และหันไปนำเข้าจากเวียดนาม มาเลเซีย หรือสิงคโปร์แทน แต่ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อ