
ธุรกิจร้านอาหารคึกคัก เข้าร่วมคนละครึ่งพลัส ช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชน เตือนประชาชนอย่าลืมเที่ยวดีมีคืน ทานอาหารเมืองหลักเมืองรอง ขอใบกำกับภาษีลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
วันที่ 29 ต.ค. นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคม โฮสเทล ประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ 29 ต.ค. เป็นวันแรกของการใช้จ่ายตามโครงการคนละครึ่งพลัส โดยมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 600,000 ราย ทั้งธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร ร้านนวด ทำเล็บ วินมอเตอร์ไซค์ และกำลังเชื่อมกับแอปฟู้ดเดลิเวอรี
“ร่วมตื่นเต้นกับการใช้คนละครึ่งพลัสในวันแรกซึ่งดีใจที่มีร้านค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านนวด ร้านทำเล็บ หรือแม้กระทั่งวินมอเตอร์ไซค์เข้าร่วมโครงการนี้กว่า 600,000 ราย ซึ่งหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าในสองเดือนสุดท้ายของปีนี้และที่สำคัญยังช่วยแบ่งเบาค่าครองชีพของประชาชนทั่วไปที่ได้รับสิทธิไม่ว่าจะเป็น 2,000 บาท หรือ 2,400 บาท ในเรื่องของค่าอาหาร ที่สำคัญยังเป็นจิตวิทยาภาพรวมให้เกิดการใช้จ่ายกันอย่างคึกคัก”
นายสรเทพ ยังระบุว่า ร้านค้าที่เข้าร่วมคนละครึ่งพลัสในรอบนี้ รัฐบาลเปิดโอกาสให้กับนิติบุคคลระดับไมโครเอสเอ็มอีที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี แต่อย่างไรก็ตามร้านค้า หรือธุรกิจร้านอาหารที่เป็นนิติบุคคล ไซซ์ S ขึ้นไป ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้ ยังสามารถเข้าร่วมกับมาตรการเที่ยวดีมีคืน ท่องเที่ยวในประเทศลดหย่อนภาษีตามการใช้จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งเริ่มวันนี้ 29 ต.ค.เป็นวันแรกเช่นเดียวกัน
“ประชาชนทั่วไปยังสามารถใช้สิทธิในการขอใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษจากร้านอาหารเหล่านี้เมื่อไปนั่งทานได้ เพื่อเอาไว้ใช้ลดหย่อนภาษีส่วนบุคคล 10,000 บาท (กรณีขอรูปแบบกระดาษ) ซึ่งเป็นอีกโครงการหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกช่องทางหนึ่งด้วยเช่นกัน”